พ่อค้ารถพุ่มพวงโอด 'โจรขโมยหมู' ไปกว่า 7 กิโลกรัม แถมยังขโมยตาชั่งไปด้วย

พ่อค้ารถพุ่มพวงโอด เจอโจรขโมยหมู ไปกว่า 7 กิโลกรัม แถมยังขโมยตาชั่งไปด้วย


จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพวงจรปิด ที่บันทึกภาพชายคนหนึ่ง ที่สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นดำ สวมหมวกปกปิดใบหน้า เดินมาดูลาดเลาบริเวณรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งทำเป็นรถพุ่มพวงขายอาหารสด ที่จอดล้อมผ้าไว้บริเวณข้างแมนชั่นแห่งหนึ่ง ภายในซอยด่านสำโรง 40/2 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในช่วงกลางดึก เวลา 04.56 น. คืนวันที่ 20 มกราคม 2567

ก่อนที่เวลา 04.58 น. (เวลาตามกล้อง) ชายคนดังกล่าวจะเดินมาอีกรอบ มานั่งใกล้เคียงรถพุ่มพวง เนื่องจากมีรถจักรยานยนต์ขี่ผ่านมา ก่อนที่ไม่นานชายคนดังกล่าวเดินพ้นรัศมีกล้องไป ก่อนที่ไม่นานชายคนดังกล่าวได้หิ้วถุงอาหารสดมา 2 ถุง เดินผ่านหน้ากล้องไป


โดยที่ผู้โพสต์ได้ลงข้อความว่า ขอรบกวนหน่อยน่ะครับ พอดีรถขายกับข้าวได้มีคนขโมยหมูและตาชั่งกิโลไป เมื่อคืนที่ 20 ที่ผ่านมา ภายในซอยวัดด่านสำโรง 40/2 หมู่ที่ 3 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ภาพตามกล้องวงจรปิดเลยครับ เจ้าของร้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมากครับ หรือมีใครที่เคยพบเห็นคนให้กล้องวงจรปิดช่วยแจ้งมาให้หน่อยน่ะครับ เบอร์โทร 096-1422411 ขอช่วยกันแชร์หน่อยน่ะครับ เพราะขายของทุกวันนี้ก็แย่อยู่แล้วครับ


โดยล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2567 ทีมข่าวได้ไปพบกับ นายอาทิตย์ อายุ 31 ปี เจ้าของรถพุ่มพวงและผู้เสียหาย ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันนั้นเหตุการณ์ก็ปกติทั่วไปไม่ได้เอะใจว่าจะมีใครมาขโมยของ เพราะว่าคนในตึกก็รู้จักกันหมด แต่มีคนบอกว่าคนที่มาขโมยไม่ใช่คนแถวนั้น เหตุเกิดประมาณตีสี่เกือบตีห้า ตนจัดร้านเสร็จแล้วพร้อมที่จะออกขายตอน 6 โมงเช้า ตอนนั้นตนขึ้นบ้านไปพักผ่อน เขาเดินมา จังหวะมีรถขับมาเขาทำทีเป็นนั่งอยู่แถวนั้น แล้วสักพักก็เดินมาเปิดกล่องหยิบ แล้วก็เดินไปเลย


ตนไม่แน่ใจว่าเขามาดูลาดเลาก่อนแล้วหรือเปล่า เพราะตนจอดรถตรงนั้นประจำ ไปก็จะมีหมูสามชั้นประมาณสองโลครึ่ง แล้วก็มีหมูบดสองโล และยังมีสันคอหมูประมาณสองโลครึ่ง รวมรวมแล้วประมาณหกถึงเจ็ดโล ราคารวมน่าจะประมาณ 1,000 กว่าบาท แล้วเขายังเอาตาชั่งไปด้วย เอาไปเหมือนพร้อมขายเลย


ตอนแรกตนก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็อยากรู้ว่าเขาเอาไปขายหรือเอาไปกิน ตนไม่แน่ใจว่าเป็นคนละแวกนั้นหรือเปล่า แต่ไม่ใช่คนที่พักที่ตึก วันนั้นตนพูดไม่ออกเพราะวันนั้นก็ขาดทุนไปเลย คือตอนไปขายของพอจอดรถเปิดลังก็เห็นรอยถุงหมูที่เขาหยิบไป มันจะเป็นร่องน้ำแข็ง ตนก็ตกใจว่าหมูหายไปไหนหมด และแถมกิโลก็ยังเอาไป ฝากบอกกับผู้ก่อเหตุให้เขาไปทำมาหากินแบบสุจริตดีกว่า เพราะว่าเศรษฐกิจแบบนี้ทุกคนต้องดิ้นรน อย่าเบียดเบียนกันเลยจะดีกว่า