หนุ่มบุกศาลเจ้า ขโมยดาบ-หมวกพระเจ้าตากสิน กลางวันแสกๆ ตร.ตามรวบถึงบ้าน อ้างทำไปโดยไม่รู้

คนร้ายบุกศาลเจ้า ขโมยหมวกและดาบของพระเจ้าตากสิน ไปแบบไม่เกรงกลัวบาปกรรม ตำรวจตามรวบตัวได้ทันควัน สุดท้ายพบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช


กล้องวงจรปิดของ "ศาลเจ้าไท้เพ่งอ๊วงกง"หรือ ศาลพระเจ้าตากสิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับค่ายบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ได้บันทึกภาพคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 25 ปีสูงประมาณ 170 เซนติเมตร นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมเสื้อยืดสีเหลือง สะพายกระเป๋าสีดำ เดินเข้ามาภายในศาลเจ้าดังกล่าวอย่างช้าๆ ก่อนหยิบเงินจากกระเป๋าสะพายใส่ตู้บริจาคจำนวนหนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปหยิบหมวกของพระเจ้าตากสินที่อยู่ด้านในของศาลเจ้าฯ ใส่หัวตัวเอง

จากนั้นก็หยิบดาบเหล็กที่พระเจ้าตากสินใช้เป็นอาวุธในการนำทหารเข้าปราบปรามศรัตรูผู้รุกรานผืนแผ่นดินไทยในอดีตจนเกิดวีรกรรมค่ายบางกุ้ง แล้วเดินออกไปจากศาลเจ้าอย่างใจเย็นกลางวันแสกๆ จากนั้นยังได้ขโมยรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง หรือซาเล้งของเจ้าหน้าที่เวรเปลโรงพยาบาลอัมพวาเป็นพาหนะหลบหนีอีกด้วย เหตุเกิดเมื่อตอนเที่ยง วันที่ 14 ต.ค.65 ที่ผ่านมา

นางสาวสุภาภรณ์ จันทร์เต็มดวง อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ศาลเจ้าฯ เล่าว่าผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาถอดรองเท้าบริเวณหน้าศาลเจ้า แล้วทุบศีรษะศิษย์เจ้าแม่กวนอิม 3-4 ครั้ง จากนั้นหยิบแจกันคว่ำลง และหยิบเทียนกระแทกพื้น ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลเอาเงินหยอดตู้ทำบุญและทักทายรูปปั้น 18 อรหันต์ แล้วเดินเข้าไปหยิบพระมาลา (หมวก) และดาบ ออกมากวัดแกว่งไปอยู่หน้าประตู ตนเห็นก็กลัวมาก จึงออกไปเรียกคนให้เข้ามาช่วยแต่ไม่มีใครกล้ากลัวผู้ก่อเหตุจะคลั่งไล่ฟันเหมือนในข่าว จึงปล่อยให้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกไป

ต่อมาเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.อัมพวา ได้จับกุมคนร้ายรายนี้ได้ขณะขับขี่รถซาเล้งไปพื้นที่ตำบลวัดประดู่ อำเภออัมพวา พร้อมดาบและหมวกพระเจ้าตากสิน ทราบชื่อนายฐานวุฒิ  อายุ 27 ปี จึงนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ เบื้องต้นนายฐานวุฒิ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงแต่ทำไปโดยไม่รู้ตัว

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายฐานวุฒิ สติไม่สมประกอบ รักษาตัวอยู่ แต่มาระยะหลังขาดยาจึงทำให้อาการกำเริบและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามทั้งเจ้าของรถซาเล้ง และเจ้าหน้าที่ปกครองศาลเจ้าฯเมื่อทราบว่านายฐานวุฒิเป็นผู้ป่วยมีอาการทางประสาทจึงไม่เอาเรื่อง เจ้าหน้าที่จึงติดต่อญาติให้มารับตัวไปดูแลต่อไป