สังคม

เปิดใจ 'เจ๊เกียว' คนจริง เจ้าภาพรถแห่ จับไมค์ไล่โจ๋วิวาทงานหมอลำ

โดย passamon_a

25 ก.ย. 2565

450 views

เพจเฟซบุ๊ก บรบือบ้านข่อย ได้โพสต์คลิปวิดีโอ กลุ่มวัยรุ่นกำลังก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่เจ้าภาพรถแห่ที่เป็นผู้หญิง จับไมค์ประกาศให้กลุ่มวัยรุ่นที่กำลังทะเลาะวิวาทกันให้ออกไปนอกพื้นที่จัดงาน


โดยแคปชั่นของคลิประบุว่า "ไผตีกัน..ต้องเจอเจ้าภาพเเบบนี้!! ไม่มีการสั่งหยุด มีเเต่เล่นต่อ ม่วนอย่างเดียว ไผมักตีกันเเลนหลบกันเอาเอง ถ้าจับได้นำฮอดบ้าน เมื่อคืนนี้มีวัยรุ่นจากทางอื่นเข้ามาก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงาน เจ้าภาพเลยสั่งวัยรุ่นที่อยู่ภายในงานวิ่งไล่คนที่ก่อเหตุอย่าให้ออกจากงานไปได้!!!"


วันที่ 24 ก.ย.65 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ฟาร์มควายงามดอนมหา บ้านดอนบม ต.หนองจิก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ภายหลังจากทราบว่า เจ้าภาพที่จ้างรถแห่มาทำการแสดงหมอลำ คือ เจ๊เกียว หรือ นางสาวจุไรลักษณ์ วงษาหลง อายุ 37 ปี หรือที่วัยรุ่นรู้จักในนาม "เจ๊เกียว บ้านดอนบม" ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อจัดซื้อเครื่องกรองน้ำ ให้กับโรงเรียนในหมู่บ้าน และเป็นผู้ปรากฏในคลิปที่คว้าไมค์จากนักร้องมาพูดให้กลุ่มวัยรุ่นที่กำลังทะเลาะกันในงานแสดงดนตรีรถแห่ ให้ออกไปตะลุมบอนกันข้างนอกงาน อยากต่อยตีอย่างไรก็ตามใจ แต่ทุกคนต้องออกไปลุยกันข้างนอกเท่านั้น ซึ่งเจ๊เกียวเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่พอเห็นวัยรุ่นตีกัน ก็แย่งไมค์มาจากนักร้อง ให้หยุดการกระทำเพื่อเตือนสติวัยรุ่น ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุทะเลาะวิวาทนี้


ทั้งนี้ นางสาวจุไรลักษณ์ หรือเจ๊เกียว เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ตนและคณะมิตรสหายได้ร่วมกันจัดงานทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องกรองน้ำ ให้กับโรงเรียนในหมู่บ้าน โดยตนได้เป็นเจ้าภาพร่วม พร้อมทั้งจัดหามหรสพ มาสร้างสีสันให้กับงาน เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ช่วยกันบริจาคและนั่งดูหมอลำอย่างมีความสุข โดยมีรถแห่ทีเอ็มมิวสิคออนทัวร์ ซึ่งเป็นวงดนตรีที่สนิทสนมกันมาเล่นสร้างความบันเทิงในหมู่บ้าน


โดยเริ่มเล่นตอนช่วงแห่ต้นผ้าป่าที่หน้าฟาร์มควายดอนมหา ส่วนตอนกลางคืนมีหมอลำซิ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนบ้านดอนบม โดยกลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวงานได้มาเต้นหน้ารถแห่ พร้อมทั้งทะเลาะวิวาทกัน โดยถืออาวุธมาครบมือ แต่ทางเจ้าภาพช่วยกันห้ามจนสงบศึกได้ และเจ๊เกียวก็ได้ยึดขวานเอาไว้ 1 เล่ม


แต่พอตกตอนค่ำซึ่งมีการแสดงรถแห่หมอลำกันอย่างคึกคักไปได้ไม่นาน กลุ่มวัยรุ่นจากต่างถิ่นและวัยรุ่นในชุมชนบางคนก็ไปทะเลาะกันหน้าเวทีหมอลำอีก รวมแล้วถึง 4 ครั้ง ซึ่งตนในฐานะเจ้าภาพ และเป็นคนในหมู่บ้านทนไม่ไหว จึงบอกให้วงดนตรีหยุด แล้วคว้าไมค์ของนักร้องมา จากนั้นได้เดินไปหน้าเวทีและพูดออกมาด้วยความโมโหว่า ถ้าอยากตีกันก็ใส่กันให้เต็มที่ เอาให้สุดไปเลย เอาให้ตายกันไปข้าง พี่น้องที่มาไม่ต้องไปห้าม แต่ทุกคนที่มีเรื่องกันต้องออกไปตีกันข้างนอกเท่านั้น เพราะว่าคณะหมอลำและรถแห่จ้างมาเพื่อความสุขของพี่น้องชาวบ้าน จะมาพังลงเพื่อเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งในที่สุดกลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะวิวาทกันก็ได้วิ่งกันออกไปข้างนอกสถานที่จัดงาน จากนั้นตนจึงให้วงดนตรีแสดงต่อจนจบงาน


ทั้งนี้ ตนเป็นคนบ้านดอนบมเกิดและโตที่นี่ จึงอยากจะทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วยการชักชวนพี่น้องเพื่อนฝูงตลอดจนศิษย์เก่าของโรงเรียนในชุมชนมาร่วมกันจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อหารายได้สมทบทุนจัดซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้งให้นักเรียนในชุมชนได้มีน้ำสะอาดไว้ดื่มกิน ประกอบกับตนก็คิดที่ผ่านมาโควิดทำให้ชาวบ้านมีภาวะเครียด และหมู่บ้านห่างหายจากความบันเทิงเพราะโรคระบาดทำให้ต้องงดจัดงานบุญไปนานหลายปีแล้ว จึงอยากให้ชาวบ้าน รวมถึงคนแก่ในหมู่บ้านได้ฟังหมอลำอย่างสนุกสนาน ตนจึงได้ว่าจ้างหมอลำรถแห่มาแสดง


ซึ่งปกติมีราคางานจ้างอยู่ที่ 65,000 บาท แต่เจ้าของรถแห่รู้จักกันและเห็นว่างานนี้จุดมุ่งหมายเพื่อการกุศล หาเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียน จึงลดให้ค่าจ้างให้ 20,000 บาท เหลือ 45,000 แต่ขนรถแห่ นักดนตรี และอุปกรณ์ชุดใหญ่จัดเต็มมาโชว์กัน แต่ก็ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อตนพูดจบ กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุวิวาท ก็แยกย้ายกันไป และต่อมาภายในคืนนั้นทั้งหมดก็กลับมาขอโทษตน พร้อมสำนึกผิด และสัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทอีก ซึ่งตนก็ได้กล่าวให้ข้อคิดและสอนบทเรียนชีวิต ตลอดจนเตือนให้น้อง ๆ มีสติ ไม่ทำอะไรวู่วามแบบนี้อีก


เจ๊เกียว บ้านดอนบม เล่าต่ออีกว่า ที่จริงตนชื่อเล่นว่า "จิ๋ม" เป็นเพียง ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ทำธุรกิจเลี้ยงควายงาม กับน้องชาย ที่คนในวงการควายงามรู้จักในนาม "บิล บรบือ" ชื่อฟาร์ม ควายงามดอนมหา


สาเหตุที่เชื่อว่าวัยรุ่นเชื่อฟังตนเพราะตนเป็นคนจริงใจ และใจกว้าง เวลามีกิจกรรมภายในหมู่บ้าน ก็จะพาวัยรุ่นมาช่วยงานเป็นประจำ ตนในฐานะพี่ใหญ่จะบอกสอนรุ่นน้องเป็นตลอด ไม่อยากให้มีเรื่องชกต่อยกัน เพราะว่าจะบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย เสียค่าใช้จ่ายมากมาย และใช้ชีวิตลำบาก ออกไปไหนมาไหนต้องระแวง อยากให้ทุกคนเป็นวัยรุ่นที่ดี มีคุณค่ากับสังคม ไม่เป็นเด็กที่ก้าวร้าว ส่วนเด็กวัยรุ่นที่ทะเลาะกันจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ และบ้านใกล้เคียง ไม่รู้จักตน จึงก่อเหตุทะเลาะวิวาท แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันด้วยดี


คุณอาจสนใจ

Related News