สังคม

ตามหากันวุ่น เด็กหนีออกจากบ้าน ด.ญ.วัย 12 น้อยใจถูกแม่ดุ - สามพี่น้องแอบอยู่ที่วัด

โดย passamon_a

21 พ.ค. 2565

163 views

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้าน ระดมกำลังออกช่วยกันค้นหา เด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกแม่ตำหนิแล้วรู้สึกน้อยใจ หนีออกจากบ้าน  


เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 20 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก ได้รับแจ้งขอกำลังสนับสนุนร่วมกับชาวบ้านบ้านแสงดาว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลปากโทก เพื่อค้นหาและติดตาม เด็กหญิงเอ อายุ 12 ปี ที่วิ่งหนีออกจากบ้านเข้าป่าหลังหมู่บ้าน และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อช่วงเย็น หลังจากที่ถูกแม่ตำหนิ ด้วยความเป็นห่วง แต่เด็กหญิงเอไม่เข้าใจแม่


การค้นหาได้จัดกำลังผสมออกเป็น 2 ชุด ค้นหาในป่าจุดที่คาดว่าเด็กหญิงเอจะใช้เป็นเส้นทางหนีไป แต่ก็ไม่พบ เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้กับย่าของเด็กหญิงเอเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าหลานจะได้รับอันตราย


จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ป้าของเด็กหญิงเอ ได้ไปค้นหาที่ร้านส้มตำของแม่เด็กหญิงเอ ก็พบเจอเด็กหญิงเอนั่งหลบซ่อนตัว อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ จึงพากลับมาที่จุดรวมพล ซึ่งมีย่าของเด็กหญิงเอยืนรออยู่ และทันทีที่ย่าได้เห็นหลาน ก็ร้องไห้ทันที พร้อมทั้งสอบถามและรีบเข้าไปกอดหลานด้วยความเป็นห่วง


เด็กหญิงเอ บอกถึงสาเหตุที่วิ่งหนีออกจากบ้านเข้าป่าไป ก็เพราะว่าแม่จะตี ด้านแม่ของเด็กหญิงเอ ก็บอกกับลูกว่า ที่คอยบอกคอยสอนก็เพราะรักลูก เพราะอยากให้ลูกเป็นคนดี และอยากให้ลูกคิดว่า ลูกยังเป็นเด็ก แม่ถามว่าหนีออกจากบ้านไปอย่างนี้ไม่รักแม่แล้วเหรอ เด็กหญิงเอก็ตอบกลับไปว่า รัก ก่อนที่จะยกมือไหว้ขอโทษแม่ และเข้าสวมกอดกันด้วยน้ำตา


หลังจากที่ได้พบเด็กหญิงเอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครอบครัวและญาติของเด็กหญิงเอได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ออกมาช่วยค้นหาในครั้งนี้ จนเด็กหญิงเอได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย


อีกเหตุการณ์ที่ จ.นครศรีธรรมราช สามพี่น้องหนีออกจากบ้าน ตามหากันวุ่น ก่อนจะเจออยู่ที่วัด


เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 พ.ต.ทศุภวิทย์ ไชยประพันธ์ สว. สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุเด็ก 3 คน หายออกจากบ้าน ตั้งแต่เย็นวันที่ 19 พ.ค. โดยเด็กได้หายออกจากบ้านที่ ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เด็กทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องกัน คนโตเป็นผู้หญิง อายุ 13 ปี คนกลางเป็นผู้หญิง อายุ 8 ปี และคนสุดท้องเป็นเด็กชายอายุ 4 ปี


หลังจากได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังออกตามหาเบาะแสตามจุดต่าง ๆ และมีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเพื่อตามหาเด็ก ปรากฏว่ามีพลเมืองดี โทรมาแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เห็นเด็กทั้ง 3 คน อยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ทาง ร.ต.อ.รักธรรม ส้มเขียวหวาน สว.สส. พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน จึงเดินทางไปตามหาต่อ ที่วัดภูเขาดิน หมู่ 5 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกว่า 30 กิโลเมตร


ถึงที่เกิดเหตุได้พบ นางสาวเกตุกนก อินศนีย์ อายุ 19 ปี ระบุว่า ตนได้มาบวชชีพราหมณ์ที่วัดแห่งนี้ ตนได้เจอเด็กทั้ง 3 คน ตอนเช้า โดยเด็กเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่มาส่งที่หน้าวัดก่อนไปทำงานที่ไปรษณีย์ทุ่งสง ต้องการมาบวชเพราะย่ามาเข้าฝันให้มาบวชที่วัดนี้ ซึ่งจะบวชในวันพรุ่งนี้ โดยพระอาจารย์จะจัดการให้ ก่อนตนจะเดินออกมา ตนก็ได้เล่าให้เพื่อนฟัง ก่อนเพื่อนจะเอาโพสต์ตามหาเด็ก 3 คนหายให้ดู ปรากฏว่าเป็นเด็กคนเดียวกัน จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ทำการตรวจสอบ โดยตนได้เดินไปดูที่ห้องที่เด็กอยู่ภายในวัด ปรากฏไม่เห็นเด็กแล้ว เรียกก็ไม่ตอบ


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบห้องดังกล่าว ก่อนจะเจอเด็กทั้ง 3 คน นอนแอบอยู่ใต้แคร่นอน เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกมา อ้างว่ากลัวจะโดนแม่ตี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกลี่ยกล่อมและยกที่แคร่นอนออก จนสามารถนำตัวเด็กออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะนำตัวเด็กทั้ง 3 คน ไปยัง สภ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งแม่ของเด็กรออยู่


สอบถาม นางสาวพัชรา บุญสนอง อายุ 26 ปี ระบุว่า เด็กทั้ง 3 คน หายออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งคนโตเป็นลูกเลี้ยง ส่วนคนกลางกับคนเล็กเป็นลูกของตน ซึ่งคนโตหายออกจากบ้านบ่อย และชอบพาน้องออกมาด้วย และมีนิสัยชอบหยิบของไม่บอก ไม่ชอบทำงาน พอตนบอกให้ทำก็ไม่ยอมทำ บางครั้งก็มีตีบ้างเพราะเด็กดื้อจริง ๆ แต่ไม่เคยตีแบบไม่มีเหตุผล ซึ่งตนมีอาชีพกรีดยางพารา ส่วนสามีตอนนี้ทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ได้มาด้วย ก็เป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์เดิมขึ้นอีก จึงติดต่อไปยังแม่ของคนโตให้มารับ แต่ไม่รู้จะยังไงเพราะเด็กไม่เข้ากับพ่อเลี้ยง ส่วนลูกของตนทั้ง 2 คนก็จะส่งให้ยายเลี้ยง จะได้ทำงานอย่างตั้งใจ


ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลองพูดคุยกับเด็ก ปรากฏว่าเด็กมีท่าทีหวาดกลัวและไม่ยอมพูด เกรงว่าเด็กจะมีปัญหา จึงได้ประสานงานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้แม่รับตัวเด็กทั้ง 3 คนกลับบ้านก่อน ซึ่งคนเป็นแม่ระบุว่า คนโตแม่แท้ ๆ แจ้งว่าจะมารับที่บ้านในวันพรุ่งนี้ ส่วนอีกสองคนจะให้ไปอยู่กับยาย


คุณอาจสนใจ

Related News