ร้านทำผมมั่นใจ ลูกค้าผมร่วงไม่เกี่ยวยืดผม จ่อฟ้องกลับ

ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวในจังหวัดขอนแก่น ไปยืดผมที่ร้านทำผม แต่แพ้สารเคมีจนผมร่วงอย่างหนัก ต้องโกนผมทิ้งทั้งศีรษะ โดยฝ่ายลูกค้าสาวโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า


"ทำผมทั้งที เจออย่างนี้คงเข็ดไปอีกนาน ทำไมเจ้าของร้านถึงปัดความรับผิดชอบแบบนี้ ใครชอบทำผมอ่านเพื่อได้เป็นอุทาหรณ์ ก่อนตัดสินใจไปยืดผมหรือทำอะไรที่เกี่ยวกับผม เราต้องเลือกร้านที่เราไว้ใจ ถ้าเลือกร้านผิดชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยนไป"


ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังร้านทำผมที่ถูกกล่าวหา พบว่าเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ปิดให้บริการ จึงโทรศัพท์สอบถามเจ้าของร้าน ยืนยันว่า กรณีลูกค้าผมร่วง มั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากการที่ลูกค้ามายืดผมที่ร้านของเธอ เพราะร้านก็ใช้น้ำยาตัวเดิมที่ใช้กับลูกค้ามามากกว่า 100 หัว ซึ่งไม่เคยมีปัญหาอะไร และหากเกิดจากการยืดผมจริง ก็ไม่น่าจะทิ้งระยะไปเกิน 1 สัปดาห์ แต่ลูกค้าคนดังกลาว มาทำผมตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. จนต้นเดือนเม.ย. จึงมาบอกว่า ผมร่วงต้องโกนผม


นอกจากนี้ ในขั้นตอนการยืดผม ทางร้านก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือทิ้งลูกค้าไปนานอย่างที่ลูกค้าโพสต์กล่าวหาด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจว่า สาเหตุที่ลูกค้าผมร่วง ไม่ได้เกิดจากการยืดผม แต่น่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ไปฉีดวัคซีนมาแล้วแพ้ หรือไปทำอะไรมาที่ลูกค้าพูดไม่หมด ขณะนี้อยู่ระหว่างปรึกษากับผู้รู้ทางด้านกฎหมาย เพื่อรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับลูกค้าคนดังกล่าว แต่หากลูกค้าออกมาแก้ข่าวให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เธอก็ยินดีจะไกล่เกลี่ย


ขณะที่คุณเหมย ลูกค้าสาวที่โพสต์แชร์เรื่องราวดังกล่าว ยังยืนยันว่า สาเหตุที่ผมร่วง มาจากการยืดผมของร้าน เพราะหลังไปยืดผมวันที่ 19 ก.พ. ผ่านไป 3 วันแรก ผมไม่ตรง และฟู ทางร้านชี้แจงว่า ผมเสียอยู่แล้ว จึงเน้นยืดตรงโคนผม จนวันที่ 20 มี.ค. ผมเริ่มร่วงเป็นวงขนาดเท่าเหรียญ 5 บาท และร่วงหนักเรื่อย ๆ จนต้องโกนผมทิ้ง พอไปปรึกษาหมอที่คลินิก หมอวินิจฉัยว่า แพ้สารเคมีรุนแรง


คุณเหมย บอกว่า ตอนยืด ช่างทิ้งน้ำยาไว้นาน โดยขอตัวไปกินข้าวกับเพื่อน ซึ่งไม่ทราบว่านานแค่ไหน แต่คาดว่าน่าจะประมาณ 3 ชั่วโมง และหลังจากยืดแล้ว เธอยืนยันว่าไม่ได้ไปทำอะไรอีกเลย ซึ่งพอเกิดเรื่องก็ไปติดต่อทางร้าน แต่ร้านปฏิเสธความรับผิดชอบ พอตอนนี้ ทราบว่าทางร้านจะแจ้งความดำเนินคดี เธอก็พร้อมจะสู้คดี และจะร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย โดยตนจะยื่นข้อเสนอให้ทางร้านรับผิดชอบเป็นค่าสินไหม แต่ก็พร้อมที่จะพูดคุยกับทางเจ้าของร้าน เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบลงด้วยดี