ชายวัย 40 หลอนยา เผาบ้านอายุเกือบร้อยปีที่อาศัย วอดทั้งหลัง

ชายอายุ 40 ปี เสพยาเสพติดจนประสาทหลอน คลุ้มคลั่งคิดว่ามีคนมาแอบมอง จนสติหลุด คลั่งเผาบ้านโบราณที่อาศัย อายุเกือบร้อยปี เสียหายทั้งหลัง ครอบครัวยันเอาเรื่องถึงที่สุด ด้านเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิงทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย


เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 15 เม.ย.65 ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านโบราณ ภายในซอยบ้านบางปอ ซอย 5 ใน ต.แม่น้ำ จึงได้ประสานไปที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเกาะสมุย จากนั้นแจ้งให้ ร.ต.อ.สุพิศ ช่อผกา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกาะสมุย และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายศุภเกียรติ เพชรเศษ ปลัดอำเภอเกาะสมุย


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้โบราณขนาดใหญ่ เลขที่ 80 ตรงข้ามร้านอาหารบางปอดซีฟู๊ด หมู่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ชาวบ้านและญาติของเจ้าของบ้านได้ช่วยกันดับ แต่กระแสลมจากชายทะเลที่พัดเข้าชายฝั่ง ทำให้เพลิงได้ลุกโหมรุนแรง ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครเกาะสมุย จำนวน 3 คัน ระดมฉีดน้ำ ใช้เวลากว่า 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่พบว่าบ้านโบราณถูกเพลิงเผาไหม้เหลือแต่เสา ทรัพย์สินภายในบ้านวอดในกองเพลิง


ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันดับเพลิง ได้มีญาติของเจ้าของบ้าน ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ก่อเหตุแอบหลบซ่อนตัวอยู่ภายในสวนมะม่วงข้างบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบ นายธนภณ หรือจอม ลิ้มสุวรรณ อายุ 40 ปี เมื่อนายธนภณเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเกิดคลุ้มคลั่งว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำร้าย จึงได้กระโดดวิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่ได้ติดตาม พร้อมจับกุมไว้ได้ เล่นเอาเหนื่อยไปตาม ๆ กัน


เมื่อสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การวกไปวนมา พูดจาไม่รู้เรื่อง และดิ้นรน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอกำลังอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย นำเปลมาใส่พร้อมหามออกมาจากในพงหญ้า ระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนำขึ้นรถหน่วยกู้ภัย ญาติ ๆ ของผู้ต้องหา ต่างโกรธแค้น ได้วิ่งผ่าเข้ามาเพื่อรุมประชาทัณฑ์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ห้ามปรามเอาไว้ พร้อมนำตัวไปยัง สภ.เกาะสมุย


ขณะที่ แม่ของผู้ต้องหา อายุ 60 ปี พร้อมลูกสาว ซึ่งเป็นน้องสาวของนายธนภณ ผู้ต้องหา ให้การว่า นายธนภณอาศัยอยู่บนบ้านไม้โบราณ กับเจ้าของบ้าน เป็นยายของนายธนภณ อายุ 83 ปี ส่วนแม่อยู่บ้านอีกหลัง อยู่ใกล้ ๆ กัน


ในขณะเกิดเหตุ ยายสังเกตเห็นพฤติกรรมนายธนภณ เอะอะโวยวายว่ามีคนมาแอบมอง และมีคนเห็นว่านายธนภณวิ่งออกมานอกบ้าน และจู่ ๆ ก็มีเพลิงลุกไหม้ ทางญาติจึงได้เข้าไปดูพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงได้ช่วยกันนำยายออกมาจากภายในตัวบ้าน และช่วยกันหาน้ำมาดับไฟ และแจ้งเจ้าหน้าที่


แม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ลูกชายคนนี้ติดยาเสพติดมานานแล้ว และเคยนำตัวไปรักษาและบำบัด แต่กลับมาเสพอีก และมักมีอาการหลอนอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเผาบ้าน ซึ่งหลังจากนี้ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย ให้ทางตำรวจดำเนินคดี ขณะที่น้องสาวผู้ต้องหา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมักพูดจาไม่รู้เรื่อง มโนและจินตนาการไปเอง บางทีก็หาว่ามีคนมาคอยแอบดูแล และไม่นึกว่าครั้งนี้จะเกิดอาการหลอนจนเผาบ้าน


ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าความเสียหายของบ้านดังกล่าวและทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เสียหายกว่า 1 ล้านบาท และในวันพรุ่งนี้ ทางตำรวยจกองพิสูจน์หลักฐาน 8 จะเดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนในทางคดี ต้องรอให้นายธนภณ มีอาการดีขึ้นและจะสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งมีความผิดในข้อกล่าวหาวางเพลิง ทำให้ทรัพย์สินเสียหายต่อไป