สุราษฎร์ธานี ฮือฮา! ปรากฏการณ์ รุ้งคู่ หรือ รุ้งแฝด

เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 25 ธ.ค.64 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้เกิดปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ 2 เส้นซ้อน ที่มีชื่อเรียกว่า รุ้งคู่ หรือ รุ้งแฝด จากบริเวณสวนปาล์มหน้าเขาท่าเพชร ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นแนวเส้นโค้งมีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร


โดยมีชาวเมืองสุราษฎร์ธานีจำนวนมากได้ถ่ายภาพโพสต์เฟซบุ๊ก เนื่องจากไม่ค่อยมีปรากฏการณ์ รุ้งคู่ หรือ รุ้งแฝด เช่นนี้บ่อยนัก โดยหลังฝนหยุดได้เห็นรุ้งคู่ หรือ รุ้งแฝด ประมาณ 20 นาที แล้วจางหายไป


สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า รุ้งกินน้ำ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังจากฝนตก เกิดจากแสงดวงอาทิตย์ส่องผ่านละอองน้ำในอากาศ หักเหเข้าสู่แนวสายตาเป็นมุม 40-42 องศา ปรากฏให้เห็นเป็นเส้นโค้งสีรุ้งบนท้องฟ้า โดยมีสีเรียงลำดับจากล่างขึ้นบน เป็น ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง บางครั้งสามารถมองเห็นรุ้งกินน้ำ 2 ตัวได้พร้อมกัน โดยรุ้งกินน้ำตัวแรกอยู่ด้านล่างคือ รุ้งปฐมภูมิ ที่รู้จักกันทั่วไปคือแถบสีแดงอยู่บนสุด แถบสีม่วงอยู่ล่างสุด ส่วนรุ้งกินน้ำตัวที่สอง จะอยู่ด้านบนเรียงลำดับสีกลับกันเป็นแถบสีแดงไปยังสีม่วงจากข้างล่างขึ้นข้างบนเรียกว่า รุ้งทุติยภูมิ


รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ รุ้งคู่ (Double Rainbow) คือ รุ้งปฐมภูมิและรุ้งทุติยภูมิ เรียกรวมกัน ส่วนรุ้งแฝด (Twin Rainbow) ให้ดูที่รุ้งตัวล่าง จะเห็นมี 2 สาย หน้าตา ลำดับสีเหมือนกัน ช่วงกลางแยกออกจากกันมากที่สุด และช่วงปลายแต่ละข้างลู่ลงมาบรรจบกัน ซึ่งรุ้งแฝดมักจะเกิดขึ้นหลังฝนตกหนัก ส่วนสาเหตุการเกิดรุ้งแฝด มีทฤษฎีคือ รุ้งแฝดเกิดจากหยดน้ำฝนในอากาศ 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีรูปร่างแตกต่างกัน ทำให้เกิดสายรุ้งแต่ละสายจากหยดน้ำแต่ละกลุ่ม เช่น หยดน้ำกลุ่มหนึ่งรูปร่างกลม ทำให้เกิดรุ้งปฐมภูมิแบบปกติ ส่วนหยดน้ำอีกกลุ่มมีรูปร่างบิดเบี้ยว ทำให้เกิดรุ้งอีกเส้นบริเวณใกล้กับเส้นปกติ