สั่งสอบหมอหัวร้อนไล่คนไข้กลับบ้านเพราะไม่ป่วยฉุกเฉิน

มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอ ขณะที่เธอพาแม่ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากแม่เป็นไข้ ปวดเนื้อตัว โดยคลิปที่เธอนำมาโพสต์ในโซเชียล เป็นภาพขณะที่หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน แล้วถามหาคนไข้ ก่อนจะซักถามว่าเป็นอะไรมา พอเธอบอกว่า แม่เป็นไข้ ปวดตามเนื้อตัว หมอก็บอกว่า กลับบ้านไป ทำให้เธอตั้งคำถามว่า หมอจะไม่ตรวจอะไรเลยหรือ ทำไมไล่กลับบ้าน ทำไมไม่วัดความดันหรือตรวจอะไรเลย คุณหมอท่านนั้นก็ตอบกลับมาว่า ตรวจให้ก็ได้ แต่ถ้าไม่เป็นอะไรก็กลับบ้านไป เพราะไม่ใช่คนไข้ด่วน จากนั้นก็มีการโต้เถียงกันสักพัก ก่อนที่หมอท่านนี้ จะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า "คนไข้ด่วน คือหายใจเร็ว เกือบตาย จะคลอดลูก มีแค่นี้ เข้าใจไหม อ่านป้ายออกไหม" ซึ่งหญิงสาวที่ถ่ายคลิปก็เถียงต่อว่า อ่านออก เรียนหนังสือมา แต่แม่ป่วย อยากให้หมอตรวจเพราะแม่ไม่ไหว ถ้าไม่ป่วยหนักก็คงไม่มาหรอก

แต่คุณหมอท่านนี้ ตอบกลับว่า ถ้าเป็นเมืองนอกเขาไล่กลับบ้านหมด มีแต่เมืองไทยนั่นแหละที่รักษาฟรีแล้วยังจะตรวจให้ แต่ต้องมาตรวจในเวลาราชการเท่านั้น ก่อนที่พยาบาลชุดสีเหลืองจะเข้ามาไกล่เกลี่ยและเรียกแม่ของหญิงที่ถ่ายคลิปไปวัดความดันและสอบถามอาการ ซึ่งพยาบาลก็ถามว่า มีอาการตั้งแต่เมื่อไหร่ หญิงที่ถ่ายคลิปบอกว่าตั้งแต่ตอนเย็น พยาบาลจึงถามต่อว่า ทำไมไม่มาตั้งแต่ตอนเย็น จากนั้นก็ให้ยาพาราเซตามอล ก่อนจะให้กลับบ้าน ทำให้น้องชายคนถ่ายคลิปไม่พอใจมาก แต่พี่สาวพยายามกันน้องชายออกไม่ให้ไปทะเลาะกับหมอ เหตุการณ์นี้เกิดช่วงตีหนึ่งครึ่ง ของวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าว ติดต่อไปที่ นางสาวจันทรา แสงจันทร์ ชาวบ้านหนองแขม ต.เมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เธอเล่าว่า แม่ของเธออายุ 59 ปี ไม่สบายตั้งแต่ตอนเย็น มีอาการท้องเสีย และหนาวสั่น เธอเอายาให้แม่ทาน และนอนพัก แต่กลางดึก อาการแม่ไม่ดีขึ้น จึงเรียกน้องชายและพี่สาว ขับรถลงจากดอย ตั้งแต่เที่ยงคืน มาถึงโรงพยาบาลตอนตีหนึ่ง ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้รู้สึกเสียใจที่ถูกเลือกปฎิบัติ เธอบอกว่า เข้าใจการทำงานของหมอ แต่คนที่มาโรงพยาบาลดึกๆ ก็เพราะเจ็บป่วยจริงๆ แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์หลังจากคลิปนั้น คือ ต้องขับรถพาแม่ขึ้นดอยกลับบ้าน กว่าจะถึงบ้านก็ตีสาม และต้องรักษาอาการกันตามมีตามเกิด จนรุ่งเช้าถึงไปหาหมอที่คลินิก และพบว่าแม่เป็นลำไส้อักเสบ ซึ่งการที่เธอโพสต์คลิปดังกล่าว ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับผู้ป่วยคนไหนอีก

หลังมีการแชร์คลิปออกไป และระบุว่า โรงพยาบาลดังกล่าว คือโรงพยาบาลเชียงดาว ซึ่งมีประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับโรงพยาบาลดังกล่าวจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวจึงพยายามติดต่อไปยังโรงพยาบาล เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทางคอลเซ็นเตอร์ของโรงพยาบาล ระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวไปทำธุระนอกโรงพยาบาล และจะติดต่อผู้สื่อข่าวกลับภายหลัง

ขณะที่เพจ "หมอขอบ่นหน่อยเหอะ" โพสต์ข้อความระบุว่า ไม่ฉุกเฉิน พอหมอไม่ตรวจ ก็ไม่พอใจถ่ายคลิป และทางเพจยังระบุว่าฝ่ายญาติคนไข้ขึ้นเสียงก่อน ซึ่งทีมข่าวติดต่อสอบถามไปทางเจ้าของเพจดังกล่าว ระบุว่า กรณีนี้ อยากให้ฟังความใน 2 มุม โดยเบื้องต้นทางเพจได้พูดคุยกับหมอในคลิป และทราบว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ในคลิป หมอท่านนั้นได้มีปากเสียงกับญาติคนไข้มาก่อน โดยญาติด่าหมอ ชูนิ้วกลาง ง้างมือจะต่อยหมอ แต่เหตุการณ์ทั้งหมด ถูกตัดทิ้งออกจากคลิปไป ในวันเกิดเหตุ หมอได้วัดความดัน ชีพจร ออกซิเจนในเลือดคนไข้ ซึ่งพบว่าปกติทั้งหมด ซึ่งประเมินแล้วเบื้องต้นว่า คนไข้ไม่เข้าข่ายฉุกเฉิน จึงนัดหมายให้มาตรวจใหม่ที่โรงพยาบาลอีกครั้งในตอนเช้า

ล่าสุด นายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ทางกระทรวงทราบเรื่องแล้ว โดยปลัดกระทรวงฯ ได้สั่งไปยังผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 1 และสาธารณสุขจังหวัด ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยปกติ โรงพยาบาลทุกแห่งที่รับคนไข้ฉุกเฉินจะต้องมีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมถึงมีผลตรวจจากห้องปฏิบัติการให้คนไข้ปลอดภัยก่อน จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังจากนี้ให้ไปสอบถามสาธารณสุขจังหวัดเพื่อติดตามความคืบหน้าได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8uiFVfzEp6w