สุดแสบ! วงจรปิดจับชัด มิจฉาชีพสวมรอยขอคืนพัสดุ ฉกพระเครื่องเกือบล้านบาท

สมุทรสงคราม - ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม รับแจ้งจากนายวรากร ส้มเตี้ย อายุ 35 ปี เซียนพระเครื่องชื่อดังใน ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เจ้าของ "เพจป๊อบคลองตัน และเพจอัมพวาพระเครื่อง" ว่าถูกมิจฉาชีพสวมรอยมาขอคืนพัสดุ ซึ่งภายในมีพระเครื่องที่ผู้เสียหายฝากส่งกับบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ไปให้ลูกค้าที่สั่งซื้อออนไลน์ มูลค่าความเสียหายเกือบล้านบาท

โดยนายวรากร เล่าว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 เวลาประมาณ 13.00 น. ได้นำพระเครื่องราคาแพงจากวัดต่างๆ และพิมพ์ต่างๆ ทั้งใน จ.สมุทรสงคราม และนอกพื้นที่ รวมกว่า 100 องค์ แยกบรรจุใส่กล่องจำนวน 24 กล่อง เพื่อส่งพัสดุให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ที่สั่งซื้อทางออนไลน์ ซึ่งลูกค้าโอนเงินให้แล้วเป็นเงินกว่า 8 แสนบาท ซึ่งตามปกติ ของต้องถึงมือคนซื้อเมื่อวันที่ 27 ก.ค. แต่ลูกค้าบอกว่ายังไม่ได้รับพระเครื่องและแชทมาสอบถามถี่ยิบ ตนเห็นว่าผิดปกติ จึงนำหลักฐานไปตรวจสอบที่บริษัทขงส่งเอกชนดังกล่าว

ได้รับคำชี้แจงจากพนักงานว่า หลังจากตนมาส่งพัสดุได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง หรือประมาณ 15.00 น. ก็มีผู้ชายมาขอยกเลิกการส่งและขอรับพัสดุคืนไปทั้งหมดแล้ว ตนตกใจมาก ว่าทางบริษัทขนส่งให้พัสดุกับคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่ผู้ส่งพัสดุไปได้อย่างไร จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมิจฉาชีพรายนี้ เอาพระเครื่องของตนคืนมาทั้งหมดด้วย

ทางตำรวจไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในปั้มน้ำ ซึ่งบริษัทขนส่งเอกชนดังกล่าวตั้งอยู่ พบว่ามีรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มค 598 กรุงเทพฯ มาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ แล้วมีผู้ชายวัยกลางคนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ลงจากรถ มาติดต่อพนักงานบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อขอยกเลิกพัสดุของนายวรากร แล้วนำพัสดุทั้งหมดออกไปอย่างลอยนวล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนขับรถแท็กซี่ที่พามิจฉาชีพมาส่งแล้ว ชื่อนายรุ่ง อาศัยอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาสอบปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และจะเร่งติดตามมิจฉาชีพมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายวรากร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเวลาเปิดการขายในเพจ จะมีมิจฉาชีพแฝงตัวมาหลอกลูกค้า ให้โอนเงินค่าเช่าพระไปให้มิจฉาชีพ แต่กรณีมาแอบอ้างเอาพัสดุไป ยังไม่เคยเจอ และติดใจมากว่า พนักงานบริษัทขนส่งเอกชน ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ มายกเลิกคำสั่งส่งพัสดุ และเอาพัสดุออกไปง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไร เพราะตอนส่งของ พนักงานขอทั้งบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ของคนส่ง แต่พอมีมิจฉาชีพแอบอ้างมายกเลิกการส่งพัสดุ กลับตรวจสอบแค่ภาพถ่ายใบเสร็จการส่งพัสดุเท่านั้น

ซึ่งภาพถ่ายใบเสร็จ หรือสลิปส่งพัสดุนี้ นายวรากรจะโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อให้ลูกค้าได้ตรวจสอบและติดตามเลขที่พัสดุอยู่แล้ว จึงเห็นว่าการทำงานของพนักงานบริษัทขนส่งเอกชน หละหลวมมาก พร้อมฝากขอให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามจับกุมมิจฉาชีพรายนี้ และนำพระเครื่องทั้งหมดมาส่งคืนให้ลูกค้าด้วย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/VLQhyvVDiL8