ประณามเหตุรุนแรง คนร้ายป่วนนราธิวาส คร่าเด็ก-หญิงชรา รวมเสียชีวิต 4 เจ็บ 3

จากเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงเด็กและคนชราใน จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ล่าสุดแม่ภาคทัพภาค 4 ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้าน พร้อมสั่งเร่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุ

เมื่อเช้านี้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เร่งติดตามสถานการณ์ หลังเกิดเหตุยิงประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตจากทั้ง 2 เหตุการณ์ เป็นหญิงชราพิการทางสายตาอายุ 76 ปี และ เด็กหญิงอายุ 9 ปี

แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่พร้อมกับเรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง และประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ เพื่อทำความเข้าใจและให้กำลังใจ สร้างความเชื่อมั่น พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทุกคน

แม่ทัพภาค 4 ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเร่งติดตามผู้ก่อเหตุ ได้เร่งให้ศูนย์บัญชาการทางยุทธวิธีติดตามไล่ล่าผู้ก่อเหตุ ปิดทุกช่องทางการหลบหนีและตรวจค้นทุกแหล่งที่คาดว่าจะเป็นที่พักพิง หรือซ่อนตัวของแนวร่วมก่อเหตุในพื้นที่ พร้อมยกระดับให้ใช้มาตรการด้านความมั่นคงเข้มข้นที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และดูแลกลุ่มเปราะบาง รับมือกับการตอบโต้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยขอประณามการกระทำอันโหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรมนี้อย่างถึงที่สุด การลั่นไกใส่เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ เป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

พร้อมสั่งการให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการ ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เน้นการสกัดกั้นการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยระบุว่า

"ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องมาร่วมกันต่อสู้ ปกป้อง "ประชาชนผู้บริสุทธิ์" โดยอาศัยองค์ประกอบในระบบที่มีอยู่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และกลไกกระบวนการยุติธรรม มาเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาร่วมกัน"

ส่วน ช่อ-พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญสันติภาพชายแดนภาคใต้ฯ สภาผู้แทนราษฎร ประณามเหตุรุนแรง ที่เกิดขึ้นกับทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และผู้หญิง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลด

และสิ่งที่น่าห่วง คือ สถานการณ์ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่มีจำนวนเหตุมากขึ้น แต่เป้าหมายได้เปลี่ยนไปสู่ เป้าหมายอ่อนที่เป็นพลเรือน

จึงเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งเดินหน้าเจรจาสันติภาพต่อให้ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยเดียวที่จะคลี่คลายสถานการณ์ได้ หลังการเจรจาหยุดชะงักมาเป็นปี ไม่มีความคืบหน้า



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CtCDlPI7C90