'ปานเทพ' ชี้ 'ทนายตั้ม' ดิ้นยากเปลี่ยน 'คดีฉ้อโกง' เป็น 'คดีแพ่ง' แนะรับสารภาพ​-รอง ผบช.ก. จ่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม

'ปานเทพ' ชี้ 'ทนายตั้ม' ดิ้นยาก เปลี่ยนคดีฉ้อโกง เป็นคดีแพ่ง แนะรับสารภาพ​โทษหนักจะเป็นเบา ขณะตำรวจเตรียมเข้าแจ้งข้อกล่าวหากับทนายตั้มเพิ่ม คดีฉ้อโกง 39 ล้าน


นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต​ ให้สัมภาษณ์ถึง คดีทนายตั้ม มองว่า ขณะนี้ทนายตั้มถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จึงประเมินสถานการณ์ไม่ถูก แม้จะมีทนายเข้าไปรายงานสถานการณ์ แต่ก็ไม่เหมือนกับคนที่อยู่ข้างนอก และหากดูจากน้ำเสียงของทนาย สะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่ทนายที่อยู่รอบข้างทนายตั้ม ก็ประเมินสถานการณ์ว่า หากยังคงเดินหน้าประเด็นที่ว่า ได้รับเงิน 71 ล้านมาโดยเสน่หา จะไม่สามารถสู้คดีได้ ดังนั้นทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม จึงคิดจะแปลงคดีฉ้อโกงเป็นคดีแพ่ง แล้วให้มีการคืนเงินแทน


แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า ทนายตั้มจะไว้วางใจทนายสายหยุดแค่ไหน ซึ่งต้องรอกดูการเข้าไปพบทนายตั้มของทนายสายหยุดในวันจันทร์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินใจว่าทนายสายหยุดจะช่วยทำคดีให้ทนายตั้มต่อไปหรือไม่


วันนี้ตนเชื่อว่าทนายที่อยู่รอบข้างทนายตั้มประเมินสถานการณ์ถูก ว่าขณะนี้ทนายตั้มเสียเปรียบ​ และการจะลดความเสียเปรียบได้ดีที่สุดคือการสารภาพ แล้วคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้ อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าเดิม


ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ทนายตั้มฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาท จากเจ๊อ้อยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งประสานทนายความของทนายตั้ม เพื่อให้พนักงานสอบสวนเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาคดีดังกล่าวภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่แน่ชัดได้ คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้


โดยในคดีนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกับที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี คนสนิทของทนายตั้ม ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฟอกเงินไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่จะมีผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลนั้นหรือไม่


ส่วนนายเล็กคนขับรถของทนายตั้มจะเข้าข่ายความผิดนี้ด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ เผยว่า ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lCtuYpmoPKY