สังคม
ผกก.บางซื่อ รับรู้จัก 'ทนายตั้ม' จริง แต่ไม่เกี่ยวเงิน 39 ล้าน พร้อมให้ตรวจเส้นเงิน
โดย panwilai_c
9 พ.ย. 2567
56 views
ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ ยันไม่รู้เรื่องหรือมีส่วนร่วมขบวนการของทนายตั้ม จัดฉากหลอกเงินมาดามอ้อย 39 ล้าน พร้อมกับท้าให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลัง ถูก ผบช.น. ตั้งกรรมการสอบ
จากกรณีที่ พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงนามตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กับพันตำรวจเอกภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับการ .สน.บางซื่อ หลังจากที่ถูกตำรวจกองปราบปรามเชิญตัวไปให้ข้อมูล
ในประเด็นที่ ได้มีผู้เสียหาย คือ นางสาวสารินี นุชนารถ อายุ 30 ปี ภรรยาของ นายนุ คนสนิทของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ไปลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ที่ สน.บางซื่อ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ว่าถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยน์ เพราะโอนเงินไปให้สแกรมเมอร์ ที่อ้างเป็นดาราจีนตามที่ ทนายตั้ม อ้างว่า นางจตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย วานให้โอนเงินเป็นสกุลบิทคอยท์
โดยในรายละเอียดบันทึกประจำวันระบุว่า นางสาวสารินี มีกระเป๋าเงินออนไลน์ชื่อบัญชีหนึ่งใน Gmail และโอนเงินสกุลบิทคอยน์ให้กับบุคคลไม่ทราบชื่อสกุล โดยใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดบัญชีหนึ่ง จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2,276,400 บาท
นอกจากนี้ปรากฎว่า หลังจากนั้นบัญชีที่เชื่อมต่อกับ Gmail ของ นางสาวสารินี รวมถึงแอปพลิเคชัน กระเป๋าเงินออนไลน์ ถูกระงับ ไม่สามารถเข้าได้อีกเลย
แต่ทนายตั้ม ได้ไปแจ้งเจ๊อ้อย ว่าถูกดูดเงินจากกระเป๋าดิจิตอลกว่า 39 ล้านบาท จนเป็นที่มาที่ทำให้เจ๊อ้อยโอนเงินคืนเพื่อรับผิดชอบเข้าบัญชีธนาคารของนางสาวสารินี จำนวน 39 ล้านบาท ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางมาดามอ้อย เชื่อว่าเรื่องนี้อาจมีการจัดฉากทำเป็นกระบวนการ เพื่อหวังเอาเงิน 39 ล้านบาท จากมาดามอ้อย
ล่าสุด พันตำรวจเอกภูวดล เปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตนรู้จักกับทนายตั้ม มา 5 ปีแล้ว ตอนนั้นภาพพจน์ของทนายตั้มเป็นคนดี เพราะบอกว่าเป็นมูลนิธิทนายประชาชน โดยทนายตั้ม มักจะไหว้วานให้ตัวเอง ลงบันทึกประจำวันมาแล้วหลายเรื่อง
ส่วนกรณีเรื่องที่เกิดขึ้น ทนายตั้มโทรมาบอกว่า จะมีคนเข้ามาลงบันทึกประจำวัน ยืนยันว่าตนเองก็ไม่รู้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของคดี จนกระทั่งมาตกเป็นข่าวถึงมารู้ว่าใบบันทึกประจำวัน ที่ทนายตั้มให้พรรคพวกมาลงไว้ถูกนำไปหลอกมาดามอ้อย
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดและกังวล หลังถูกสังคมโจมตี ว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับทนายตั้ม ยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเองได้เลย ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง
นอกจากนี้ยังถูกสังคมโยงไปถึงว่า เพื่อนร่วมรุ่นกับบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจสุรเชษฐ หักพาล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนยอมรับว่าตนสนิทกับบิ๊กโจ๊กจริง แต่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ และบิ๊กโจ๊กก็บอกกับตนว่าเลิกคบกับทนายตั้มไปแล้ว เพราะไม่รู้ว่าเป็นคนยังไง
ที่ผ่านมาตัวเองทำมาหากินสุจริต รับราชการเป็นตำรวจ และเปิดร้านขายราดหน้ามานานกว่า 10 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็เคยนำราดหน้าจากร้านตัวเองไปเลี้ยงลูกน้องในที่ทำงาน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/c4xNFXGK2cE