ศิษย์ออกโรงป้อง 'อดีตพระโอ' ลั่นเหยื่ออ้างถูกลวงถวายตัวโกหก เตรียมพาสู้คดี

ลูกศิษย์อดีตพระโอ พร้อมทนาย โต้ผู้เสียหายพูดไม่ตรงความจริง โดนฟ้องยักยอกเงินสำนักสงฆ์ มูลค่าเสียหายกว่า 13 ล้านบาท เตรียมพาอดีตพระโอ มอบตัวสู้คดี



กรณีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ร้องเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกอดีตพระโอ ซึ่งอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการต่อชะตา และยังหลอกให้มีเซ็กส์หมู่กับลูกศิษย์



ล่าสุด นายกิตภัท พุทโธรักษาชาติ ลูกศิษย์อดีตพระโอ และ นายเนติ บุญพุทธารักษา ทนายความ แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงคดีฟ้องร้องหญิงคนดังกล่าว ว่ายักยอกวัตถุมงคลของสำนักสงฆ์ไปกว่า 13 ล้านบาท โดยไล่เรียงไทม์ไลน์ ดังนี้



ปี 2553 หญิงรายนี้ เคยเป็นแฟนกับนาย ป. พนักงานดูแลร้านจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์ และอดีตพระโอ ไว้วางใจ เหมือนเป็นลูกบุญธรรม



ปี 2554 หญิงรายนี้เลิกลากับนาย ป. แล้วเข้ามาดูแล กิจการจำหน่ายวัตถุมงคลแทน



ในปีเดียวกันสามีของหญิงรายนี้ ได้เข้ามาปฏิบัติธรรม ซึ่งตอนนั้นยังเป็นนักศึกษา และพาเพื่อนชายอีกคนเข้ามาในที่พักสงฆ์ด้วย



ปี 2555 ทั้ง 3 คน ร่วมกันดูแล บริหารจัดการธุรกิจจำหน่ายวัตถุมงคล รวมถึงดูแลแม่ของทั้ง 3 คน



ทั้งนี้ อดีตพระโอ ไว้วางใจหญิงรายนี้ สามารถใช้โทรศัพท์มือถือของอดีตพระโอ ในการประสานงานติดต่อธุรกิจวัตถุมงคลทุกอย่าง และมีการโอนเงินซื้อขายวัตถุมงคลเข้าบัญชีของหญิงรายนี้



จากนั้นทั้ง 3 คน เริ่มมีปัญหากับลูกศิษย์ และคนที่อยู่ในที่พักสงฆ์ ซึ่งได้มีการเบิกเอาวัตถุมงคลออกไปจำหน่าย แต่ไม่นำเงินให้กับทางที่พักสงฆ์ อีกทั้งยังได้นำของบรรพบุรุษ และครูบาอาจารย์ ของอดีตพระโอไป แล้วไม่คืน



ปี 2565 หญิงผู้ร้องออกไปจากที่พักสงฆ์ แต่ยังเบิกวัตถุมงคลไป แต่ไม่ได้นำมาคืน มีการฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์นับ 10 กว่ารายการ



ปี 2567 อดีตพระโอ ตัดสินใจฟ้องข้อหายักยอกทรัพย์ ทั้งอาญาและทางแพ่ง 2 คดี รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท โดยมีการนัดไกล่เกลี่ย แต่ตกลงกันไม่ได้ และวันที่ 20 มิถุนายนนี้ ศาลนัดสืบพยานคดียักยอกทรัพย์



นายกิตภัท เปิดเผยว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ตามข่าว อดีตพระโอจึงลาสิกขาเพื่อมาต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนการหลอกลวง ให้มีเซ็กส์หมู่ ตามที่ปรากฎในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่จะไปปรากฏในชั้นศาล และจากนี้ไป หากมีการพูดให้เกิดความเสื่อมเสีย จะพิจารณาดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงต่อไป



และยืนยันว่า อดีตพระโอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ปี 2540 ระหว่างที่อยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้ อดีตพระโอไม่เคยมีการสอนในลักษณะอุตริธรรม และตนเองก็ไม่ทราบว่ามีพิธีถวายตัวตามที่ หญิงรายนี้กล่าวอ้าง



ทั้งนี้ อยากฝากบอกคู่กรณีว่า ในฐานะที่ตนเองนับถือเหมือนพี่สาว จะทำอะไรขอให้คิดให้ดีก่อ นึกถึงวันเวลาที่เคยลำบากมาด้วยกัน กว่าที่จะมีวันนี้ได้



ส่วนคดีอดีตพระโอ ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนนั้น ทางทนายความเตรียมพาอดีตพระโอ เข้ามอบตัวต่อสู้คดีที่ สน.คันนายาว เพื่อพิสูจน์ความจริง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/q536Rdi5M6Y