สพฐ. ชง ครม. ขอ 'ภารโรง' คืน ป้องกันซ้ำรอยเหตุครูเวรถูกบุกทำร้าย

ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย คนตัดต้นไม้สุดโหด ทำร้ายครูเวรผู้หญิง จนกระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ เร่งตรวจสอบวงจรปิดจ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ล่าสุดครูที่บาดเจ็บปลอดภัยแล้ว ขณะที่สังคมเรียกร้องยกเลิกให้ครูเข้าเวร



กล้องวงจรปิดในโรงเรียนเห็นชายที่ก่อเหตุ เข้าไปเดินวนเวียนอยู่ในโรงเรียน แล้วยืนด้อม ๆ มอง ๆ หน้าห้องเรียนที่ครูเวรอยู่ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ก่อนจะเห็นภาพที่คนร้ายวิ่งออกมาจากห้อง โดยมีครูเวรที่เป็นผู้หญิงวิ่งตามออกมาพร้อมมีด แล้วคนร้ายก็เข้าประชิดตัวครู ตีเข่าใส่ ก่อนจะยื้อยุดกัน จนครูลูกกดตัวลงกับพื้น



ภาพต่อมาเห็นคนร้ายทำปืนตกก็รีบหยิบปืนใส่กระเป๋ากางเกง แล้วยังจับครูกดไว้กับพื้น เอาศอกกระทุ้งครู พร้อมกับทำท่าทำมือจุ๊ปาก ลักษณะเหมือนบอกให้เงียบ ๆ ก่อนจะจิกพยายามลากครู จากนั้นก็ลากครูกลับเข้าไปในห้องเรียน แล้วยังลากครูออกมาข้างนอก ไปตามถนน แล้วกลับมาที่หน้าห้องเรียนอีกครั้ง



ก่อนจะมีคนขับรถกระบะเข้ามาในโรงเรียน แล้วพยายามช่วยครู ซึ่งคนร้ายก็ยอมปล่อยให้ครูวิ่งหนี



จากนั้นคนร้ายกลับเข้าไปในห้องเรียน พร้อมหยิบกระเป๋าผ้าสีขาวที่ตัวเองสะพายมาด้วยในตอนแรก แล้ววิ่งหนีไป



เหตุเกิดช่วงบ่ายโมงกว่า ๆ เมื่อวานนี้ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.ดอยลาน อ.เมือง จ.เชียงราย ครูที่ได้รับบาดเจ็บ คือ นางอัจราภรณ์ ยศบุญ อายุ 41 ปี ครูประจำชั้น ป.2 ได้รับบาดเจ็บปากแตก มีแผลฟกซ้ำบริเวณใบหน้า และลำตัว กู้ภัยนำส่งตัวไป รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์



ซึ่งตอนเกิดเหตุ มีเด็กชายชั้น ป.6 กำลังเล่นกันอยู่ในศาลาหน้าอาคารโรงเรียน ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ บอกว่า เห็นคนร้าย ซึ่งเคยเห็นเข้ามาตัดต้นไม้ในโรงเรียน มาทำร้ายคุณครู พวกตนเห็นคนร้ายมีมีดในมือ ส่วนคนร้ายได้เงยหน้ามาเห็นพวกตน จึงทำมือจุ๊ปากให้เงียบ พอคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปนอกโรงเรียน พวกตนจึงรีบแจ้งครูในโรงเรียน ให้พาครูที่ถูกทำร้ายไปหาหมอ



นายนิติธร อินธรรม อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโป่งเกลือ บอกว่า คนร้ายคือนายนิรันดร์ อายุ 38 ปี เป็นชาวบ้านใหม่รุ่งเรือง เคยมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนจ้างนายนิรันดร์ มาตัดต้นไม้ที่ยืนต้นตายในโรงเรียน เข้ามาตัดได้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว ช่วงเกิดเหตุตนกำลังติดธุระอยู่นอกหมู่บ้าน และได้รับแจ้งเหตุจึงรีบมาดู ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจ เพราะคนร้ายมีอาวุธ เข้ามาทำร้ายครูผู้หญิงที่มาเข้าเวรวันหยุดคนเดียว



ด้านนายศรธนู อินธรรม ผู้ใหญ่บ้านบ้านใหม่รุ่งเรือง และเป็นญาติคนก่อเหตุ เล่าว่า หลังเกิดเหตุตนได้พยายามติดต่อ และพยายามเกลี้ยกล่อม ให้นายนิรันดร์มามอบตัว เพื่อโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ซึ่งนายนิรันดร์บอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะหลบหนี แต่เขาก็บาดเจ็บด้วย จึงขอหลบไปทำแผลก่อน



ขณะที่นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ภรรยาของนายนิรันดร์ บอกว่า สามีเล่าว่า โดนครูแย่งมีดไป เพราะครูเข้าใจว่าสามีจะไปทำร้าย จึงเกิดการแย่งมีดกันขึ้น โดยสามีโดนมีดบาดที่ปาก จึงโมโหทำร้ายร่างกายครู



ต่อมานายนิรันดร์ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมเผยว่า วันเกิดเหตุจะเข้าไปตัดต้นไม้ในโรงเรียน ปกติจะแจ้ง ผอ.โรงเรียน หรือครูอีกคนหนึ่งที่ชื่อโอ แต่วันนี้กลับเป็นครูผู้หญิงที่ตนไม่รู้จัก และตอนที่ตนจะเดินเข้าไปแจ้งครู กลับทำปืนพลาสติกที่พกไปด้วยร่วงตกพื้น ครูผู้หญิงเห็นปืนคงคิดว่า ตนจะมาทำร้าย จึงเข้ามาแย่งมีดที่ตนพกมาตัดไม้ เอาไปถือกวัดแกว่ง เหมือนกลัวว่าตนจะเข้าไปทำร้าย



ตนพยายามตะโกนบอกครูให้ใจเย็นๆ ตนไม่ได้มีเจตนาจะเข้ามาทำร้ายอะไร แค่จะมาตัดไม้เฉย ๆ แต่ครูไม่ยอมหยุด ตนก็เลยเข้าไปแย่งมีด ก่อนมีดจะแกว่งโดนใส่สันจมูก และริมฝีปากของตนจนเป็นแผล มีเลือดออกจำนวนมาก จึงโมโห บันดาลโทสะ ทำร้ายครู หลังเกิดเหตุได้หลบไปทำแผล และติดต่อมอบตัวกับตำรวจ เพราะกลัวว่าครอบครัวและสังคม จะมองเราไม่ดี ว่ามีเจตนาจะเข้าไปทำร้ายครู จึงมามอบตัวเพื่อพิสูจน์ความผิด



เบื้องต้นตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ไว้ก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนครูที่บาดเจ็บ และตรวจกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 10 โมง ตำรวจจะแถลงความคืบหน้าทางคดี



ทั้งนี้มีรายงานว่า นายนิรันดร์มีประวัติพัวพันยาเสพติด เคยเข้าออกคุก และเคยมีเหตุทำร้ายร่างกายคนในหมู่บ้านหลายครั้ง จนกู้ภัยในพื้นที่จำหน้าได้



ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงราย เขต1 ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด จะลงพื้นที่ตรวจสอบภายในโรงเรียน และประชุมผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อช่วยเหลือครูที่ได้รับบาดเจ็บเต็มที่ พร้อมหามาตรการดูแลความปลอดภัยของครูที่เข้าเวร



ขณะที่อาการบาดเจ็บของครู มีกระดูซี่โครงหัก 3 ซี่ และปากแตก รักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ล่าสุดแพทย์รักษาอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว



ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ หลายฝ่ายอยากเรียกร้องให้ภาครัฐ พิจารณางดเว้นเรื่องการเข้าเวรของครู ที่นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังทำให้ครูได้รับอันตราย



ด้านเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือ กพฐ. เดินหน้าช่วยลดภาระครูอยู่เวรประจำโรงเรียน โดยเสนอครม.ขอภารโรง14,000 ตำแหน่ง ให้ทุกโรงเรียน อยู่ระหว่างรอครม.อนุมัติ



ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีมีคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายครูโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ อ.เมือง จ.เชียงราย ขณะที่มาอยู่เวรรักษาการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนเกิดการต่อสู้และได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย ซึ่งต่อมาจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้น ในเบื้องต้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสพฐ.ได้มอบหมาย ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. บุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 (สพป.เชียงราย เขต 1) นักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่ พร้อมทีมสหวิชาชีพ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดตามอาการของคุณครูที่ได้รับบาดเจ็บ



เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ทราบถึงภาระและความกังวลใจ ของคุณครูทั่วประเทศ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ซึ่งเป็นไปตาม มติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2542 ที่กำหนดให้สถานที่ราชการทุกแห่ง ต้องจัดให้มีเวรรักษาการณ์ เพื่อดูแลและป้องกันความเสียหาย อันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการ



จึงได้กำหนดนโยบายลดภาระครู เพื่อให้คุณครูได้ทุ่มเทเวลาเพื่อการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ และได้สั่งการ สพฐ. ให้เสนอขอครม. อนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ ซึ่ง สพฐ. ได้จัดทำคำขอต่อ ครม. เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา



โดยในระหว่างที่ รอ ครม.อนุมัติ ขอสพฐ.พื้นที่ และโรงเรียนประสานหน่วยงานปกครองในพื้นที่ หรือผู้นำชุมชน ช่วยจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยในโรงเรียนและช่วยเฝ้าระวังผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงรุนแรง

โดยส่วนกลางได้มีหนังสือส่งถึงกระทรวงมหาดไทยให้สนับสนุนโรงเรียนก่อนหน้านี้แล้ว



ด้าน ครูจวง - นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเสียใจต่อเหตุ ครูเชียงรายถูกชายบุกเข้าทำร้ายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ "ครูนอนเวร" ตอกย้ำ ปัญหาระบบครูนอนเวร ที่สร้างภาระ-อันตรายให้กับครู โดยขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความจริงใจ แก้ปัญหา โดยสามารถออกมติ ครม.ยกเลิกได้ทันที เพราะไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพียงแก้ไขมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 ขณะเดียวกัน ขอให้จัดสรรงบประมาณ เปลี่ยนใช้กล้องวงจรปิด แทนครูนอนเวร

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ieHR62tpsQ8