แรงงานไทย 139 คนถึงไทยแล้ว ก้มกราบแผ่นดิน ตื้นตันกลับไทยปลอดภัย

แรงคนไทย 139 คนกลับจากอิสราเอลถึงไทยอีกชุดแล้ว เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา บางคนตื้นตันใจถึงกับก้มลงกราบแผ่นดิน


นี่เป็นวินาทีที่นาย นิทัศน์ พันธศรี แรงงานชาวจังหวัดหนองคาย ก้มลงกราบพื้นด้วยความตื้นตันและดีใจ ที่ได้เดินทางกลับถึงแผ่นดินไทยอย่างปลอดภัย หลังเขาและเพื่อนร่วมชาติอีก 138 คน เดินทางกลับมาด้วยเครื่องบินแอร์บัส 340 ของกองทัพอากาศ


ทีมข่าวได้พูดคุยกับนาย นิทัศน์ บอกว่า จุดที่เขาอยู่คือทางตอนเหนือของอิสราเอล ติดกับชายแดนของเลบานอน มีการทิ้งระเบิดตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมจนถึงปัจจุบัน หนักที่สุด คือ วันที่ 16-18 ตุลาคม เขาจึงขอนายจ้างกลับบ้าน เพราะนายจ้างก็เป็นทหารอิสราเอลและต้องออกไปรบ นายจ้างจึงประสานงานให้เขาได้กลับบ้าน และนี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ที่ได้กลับประเทศไทย จึงดีใจมาก


พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ บอกว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีอาการป่วย 3 คนที่ป่วย โดยมี 1 รายที่อาการหนักเนื่องจากติดเชื้อและข้อเท้าบวมไม่สามารถเดินได้ อีกคนหนึ่งมีอาการไข้เล็กน้อย และผู้หญิงอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บบริเวณเข่าจากการวิ่งหลบกระสุน แต่ตอนนี้ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว


หลังจากนี้ทางการไทยจะปรับแผนอพยพโดยไปรับคนไทยที่ท่าอากาศยานฟูไจร่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แทน ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินได้มากขึ้น มีระยะทางสั้นลง ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง


เที่ยวบินต่อไปออกเดินทางในวันที่ 25 ตุลาคม ไปยังท่าอากาศยานฟูใจร่า กรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจะกลับถึงประเทศไทยในวันเดียวกันตอน 5 โมงเย็น และเที่ยวบินที่สองในวันที่ 28 ตุลาคมและเที่ยวบินที่ 3 ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

ส่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีคนไทยจากอิสราเอลกลับอีก 2 เที่ยวบิน ของวันนี้กว่า 300 คน ซึ่งมาโดยสารการบินอิราเอลแอร์ไลน์ ซึ่งมีทั้งแรงงานไทยและนักเรียนอาชีวะศึกษา ที่ไปศึกษาที่อิสราเอล ทุกคนล้วนดีใจ และรู้สึกปลอดภัยที่ได้กลับยังแผ่นดินเกิด





แรงงานไทยที่เดินทางถึงไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้ มี 2 เที่ยวบิน ในช่วงเวลา 12.40 จำนวน 61 คน และ เวลา 13.40 น. จำนวน 306 คน ด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ จุดนี้มีทางกระทรวงแรงงานไปต้อนรับแรงงานไทย พร้อมเข้าตรวจคนเข้าเมือง และคัดกรองสุขภาพ ก่อนนำเงินช่วยเหลือเบื้องต้นมอบให้กับแรงงานไทยทุกคน



ทีมข่าว ยังได้พูดคุยกับนายตี ศรีสันงาม แรงงานไทยที่ไปทำงานด้านเกษตรกรรม ที่เมืองอฟูล่า กล่าวว่า แม้เมืองนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ แต่เพราะครบสัญญา 5 ปีพอดี และสถานการณ์รุนแรง น่ากลัว จึงกลับบ้านดีกว่า หวั่นไม่ปลอดภัย ทั้งนี้หากจะให้กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก ก็คงไม่กลับไปแล้ว



ในเที่ยวบินลำเดียวกันนี้ มี นักเรียนอาชีวะของไทย 7 คน ซึ่งไปฝึกงานที่อิสราเอลขอเดินทางกลับ โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ มาต้อนรับนักเรียนทั้งหมดด้วย พร้อมให้นำพระเครื่อง หลวงปู่สรวง จากจังหวัดศรีสะเกษ มามอบให้กับเด็กนักเรียนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเด็กๆด้วย



สำหรับนักเรียนอาชีวะไทย 7 คน เป็นนักเรียนอาชีวะจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด 5 คน และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ 2 คน ซึ่งทั้งหมดจะกลับภูมิลำเนาในวันนี้ทันที



นายทักษิณ วัฒนุยาน นักเรียนอาชีวะจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ยืนยันว่าในเมืองที่ตนเองอยู่ถือว่ายังปลอดภัย ทุกอย่างเป็นปกติ แต่จะได้ยินเสียงปืนและระเบิดบางบ้างครั้ง โดยสาเหตุที่กลับมาไทย เนื่องจากครอบครัวเป็นห่วง ส่วนจะกลับไปอีกเมื่อไรนั้น ต้องประเมินสถานการณ์ก่อน



ขณะที่ นายสิริพงศ์ ระบุว่า นักเรียนอาชีวะของไทย ที่เดินทางไปฝึกงานอยู่ที่เมืองอราวา (Arava) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล มีทั้งหมด 78 คน แต่วันนี้มีนักเรียนอาชีวะ มีความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย จะจำนวน 7 คน เนื่องจากผู้ปกครองเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ส่วนนักเรียนที่เหลือยังคงฝึกงานกับเอกชนตามปกติ เพราะเมืองนั้น สถานการณ์ยังคงเป็นปกติ แต่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประสานงานกับสถานฑูตไทยที่อิสราเอลตลอดเวลา หากสถานการณ์รุนแรง หรือมีความเสี่ยง จะขอให้นำนักเรียนไทยกลับทันที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jgDcCwKba6w