สทนช. วางแผนจัดการน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา รับมือเอลนีโญ

สำหรับสถานการณ์น้ำในช่วงปลายฝน เจ้าหน้าที่ควบคุมการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาและกักเก็บน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด รับผลกระทบเอลนีโญ ที่คาดว่าจะยาวไปถึงปี 2568


โดยที่เขื่อนเจ้าพระยา วันนี้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา พบว่าช่วงที่ผ่านมามีร่องมรสุมพาดผ่านพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ทำให้พื้นที่จังหวัดแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เกิดอุทกภัย และระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับสูง จึงต้องมีการวางแผนจัดการน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยได้หน่วงผันน้ำเข้าบึงบอระเพ็ดให้มากที่สุด มีเป้าหมายกักเก็บน้ำให้ได้ 220 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเก็บไว้บริหารจัดการน้ำฤดูแล้งและวางแผนเตรียมรับกับสถานการณ์เอลนีโญ ที่จะมีไปจนถึงปี 2568


สำหรับเขื่อนเจ้าพระยา เป็นวันที่ 2 แล้วที่ทางเขื่อนได้ระบายน้ำ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สวนกล้วยหอมจมน้ำ 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน 60 กว่าไร่ นายยุทธนา โรจนะบุรานนท์ สมาชิก อบต น้ำเต้า หมู่ 1 อำเภอบางบาล กล่าวตำหนิการบริหารจัดการน้ำของชลประทาน ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมทันที และหากน้ำท่วมเกิน 2 วัน พืชผักทั้งหมด จะยืนต้นเหี่ยวเฉาตาย โดยเฉพาะกล้วยหอม กล้วยไข่ของชาวบ้านที่ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ


นายคำนึง โมรา เจ้าของสวนกล้วยหอม ตำบลบางหลวง บอกปลูกกล้วยหอม กล้วยไข่ไว้ทั้งหมด 300 ต้น กำลังออกปลี ออกเครืออ่อนอีก 1 เดือนน้ำไม่ท่วมก็จะเก็บขายได้ แต่ปีนี้ชลประทานบอกว่าน้ำน้อยแค่ขอบตลิ่ง แต่สุดท้ายไม่เป็นอย่างที่ว่าสวนกล้วยที่ลงทุนเพิ่มเสียหาย


จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ หลังเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำและมีผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ขณะที่ชุมชนมัสยิดท่าอิฐ บอกว่าในชุมชนน้ำท่วม 2 เดือนแล้ว ขึ้นลงตามภาวะน้ำทะเลหนุน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/83yevYTefQw