แม่ค้าร้องโดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน ก่อนนำไปใช้เป็นบัญชีม้า ชี้แจ้งความแล้ว แต่ตร.ไม่สนใจ ทำเดือดร้อนหนัก

แม่ค้าร้านยำในอำเภอคูคต จังหวัดปทุมธานีร้องสื่อ มิจฉาชีพมาซื้อยำ แล้วหลอกโอนเงินเกินมาให้ ก่อนจะขอคืนเป็นเงินสด มารู้ภายหลังถูกนำบัญชีไปใช้เป็นม้าหลอกผู้เสียหายรายอื่นโอนเงินมา ทำให้บัญชีถูกอายัดไม่สามารถเบิกถอนเงินได้  แจ้งความ 2 อาทิตย์เพื่อนำหลักฐานไปขอถอนอายัดบัญชี แต่ตำรวจไม่สนใจ ร้านเดือดร้อนหนักไม่มีเงินหมุนเวียน


แม่ค้าที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ คือ นางสาวณัฐนันท์ หรือ อุ้ม อายุ 33 ปี แม่ค้าขายยำ ย่านลำลูกกา เล่าว่า ช่วงบ่าย 3 โมงครึ่ง วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่เธอกำลังจัดของที่ร้านมีชายอายุประมาณ 30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ nmax สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาสั่งยำ 1 ชุด ในราคา 50 บาท แต่จะให้แฟนโอนเงินมาให้ พร้อมขอเลขที่บัญชี จากนั้นไม่กี่นาทีก็มียอดเงินโอนเข้ามาที่บัญชี 2,500 บาท แล้วคนร้ายให้เธอค่ายำไป 50 บาทไป ที่เหลือให้ทอนเป็นเงิน โดยคนร้ายอ้างว่าจะให้ค่ากดเงิน 50 บาทด้วย แต่เธอปฏิเสธ จากนั้นก็ไปกดเงินสดทึี่ตู้เอทีเอ็มฝั่งตรงข้าม แล้วทอนเงินให้คนร้ายไป 2,450 บาท


กระทั่ง 4 ทุ่ม มีคนทักเฟซบุ๊กมา บอกว่ารู้จักผู้หญิงคนหนึ่งหรือไม่ เมื่อเธอปฏิเสธ คนในแชทจึงบอกว่าผู้หญิงคนนี้หลอกขายโทรทัศน์ให้กับน้องชายเธอ แล้วให้โอนเงินมายังบัญชีของคุณอุ้ม พอเธอรู้เรื่องก็ตกใจ และรู้สึกกลัวว่าจะถูกเป็นบัญชีม้า เธอจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คูคต เพื่อยืนยันว่า เธอไม่ใช่บัญชีม้า และเป็นผู้เสียหายเช่นกัน ซึ่งเธอได้แสดงสเตทเม้นท์ ว่าบัญชีที่คนร้ายโอนมาเป็นบัญชีของร้านไม่มีการโอนเงินที่ผิดปกติ


แต่ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สน.เตาปูนแล้ว ทำให้เธอโดนอายัดบัญชี ทำให้เธอไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ส่งผลให้ร้านไม่มีเงินหมุนเวียน ต้องไปยืมเงินคนรอบข้างมาซื้อของเข้าร้าน เธอพยายามชี้แจงที่ สน.เตาปูน ตำรวจก็บอกว่าไปหาหลักฐานมา ซึ่ง 1 ในนั้นคือกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ แต่ปรากฎว่า ร้อยเวรกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาโทรไปไม่รับสาย หนักสุดคือปิดเครื่อง จนผ่านมา 2 สัปดาห์ บัญชีเธอยังถูกอายัดอยู่


ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับ นางสาว สุชาดา  อายุ 22 ปี พี่สาวของผู้เสียหายที่โดนหลอกโอนเงินค่าโทรทัศน์ บอกว่า น้องชายเธอได้สั่งซื้อทีวีผ่านช่องทางออนไลน์ ในราคา 3 พันกว่าบาท ทางร้านให้โอนเงินมัดจำไป 2500 บาท พอโอนไปก็ติดต่อทางร้านไม่ได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่นอน จึงพยายามไปค้นหาชื่อของบัญชีปลายทาง จนทราบเฟซบุ๊ก และได้ทักไปคุย จึงทำให้รู้ว่า บัญชีปลายทางก็ถูกหลอกเช่นกัน ซึ่งน้องชายเธอก็หวังว่าอยากจะได้เงินคืน


ขณะที่ร้อยเวรเจ้าของคดีที่ สภ.คูคต อ้างว่า ที่ยังไม่ได้ไปเอากล้องวงจรปิดที่ร้านสะดวกซื้อให้ เพราะผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความแต่มาลงบันทึกประจำวัน และจากหลักฐานที่ผู้เสียหายมีสามารถนำไปยื่นแก้ต่างที่ สน.เตาปูนได้เลย เมื่อทีมข่าวถามว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนที่ผู้เสียหายติดต่อเพื่อให้ไปขอกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อทำไมไม่ดำเนินการ ในประเด็นนี้ร้อยเวรไม่ได้ตอบ แต่บอกว่า การขอกล้องวงจรปิด ขอไปปรึกษาผู้บังคับบัญชาก่อนว่า ต้องให้ สภ.คูคต ทำ หรือ สน.เตาปูน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qfxssChnpPY