เจอแล้วกระบะตีนผี! ชน ‘บอส’ มือกีตาร์วงดัง อาการสาหัส

ชาวเน็ตแชร์ วงจรปิด ล่ารถกระบะ ขับรถเหยียบมือกีต้าร์วง The White Hair Cut อาการสาหัส แล้วหลบหนี เหตุเกิดบริเวณถนนรัตนราช จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา


19.44 น. ของวันอังคารที่ 13 มิถุนายน กล้องวงจรปิดถนนรัตนราช จับภาพวินาทีที่นาย วีระพัฒน์ ธาราพิพัฒน์กุล หรือ บอส อายุ 28 ปี มือกีต้าร์วง The White Hair Cut กำลังเดินข้ามทางม้าลายมายังร้านสะดวกซื้อ แต่ถูกรถมอเตอร์ไซค์ขี่มาด้วยความเร็วชนอย่างจัง ทำให้ "บอส" กระเด็นไปยังเลนฝั่งตรงข้าม แล้วถูกรถกระบะขับมาทับซ้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่รถกระบะคันดังกล่าวไม่ยอมจอด ขับหลบหนีเข้าซอยปรียาพรไป ส่วนรถมอเตอร์ไซต์ภายหลังถูกชาวบ้านสกัดจับได้ ทราบชื่อคือนายปิยะพงษ์ นะสี อายุ 32 ปี แต่สุดท้ายก็อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไป

คดีนี้พ่อ "บอส" แจ้งความที่ สภ.บางบ่อ แต่ตำรวจบอกว่า ต้องไปติดตามหากล้องวงจรปิดเอง ทำให้เพื่อนๆ ในวง The White Hair Cut ต้องเดินลงพื้นที่หาหลักฐานเองทั้งหมด จนได้กล้องวงจรปิดที่เห็นจุดเกิดเหตุ // และแชร์ในโซเชียล เพื่อให้คนช่วยแจ้งเบาะแส กระทั่งวันที่ 16 มิถุนายน เขาสามารถรู้ตัวคนขับรถกระบะ และพามาส่งมอบให้กับตำรวจ สภ.บางบ่อ ได้เอง โดยคนขับยอมรับว่าเยียบ "บอส" จริง แต่ไม่ได้ตั้งใจ



คุณติยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ 2 ประเด็นว่า ประเด็นแรก ตนได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีสายตรวจ 2 นายขับมาถึงจุดเกิดเหตุแต่ไม่ลงจากรถมอเตอร์ไซค์เพื่อช่วยจัดการสถานการณ์ และไม่จับกับคนขับรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งยังอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ จนกระทั่งอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไป จึงสงสัยว่า เพราะเหตุใดตำรวจสายตรวจ ถึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าช่วยเหลือบอสและไม่จับกุมคนขี่มอเตอร์ไซค์คันก่อเหตุ ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า ซึ่งหากคืนนั้นสายตรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถมอเตอร์ไซค์และเมื่อวานที่ผ่านมาสามารถจับกุมคนขับรถกระบะได้ ก็ถือว่าคดีนี้จบสิ้น แต่การละเว้นปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ ทำให้คดียืดเยื้อและต้องเสียเวลาออกหมายเรียกตามจับกุมคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ให้มารับผิดอีก


ประเด็นที่ 2 ทำไมตำรวจถึงไล่ให้ฝั่งผู้เสียหายเป็นคนรวบรวมพยานหลักฐานเอง จากการที่ตำรวจพูดไล่ให้พ่อน้องบอสไปรวบรวมวงจรปิดเองนั้น ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจถึงพูดจาเช่นนี้และมันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองไม่ใช่หรือที่ทำหน้าที่รวบรวมมีหลักฐานและขอภาพวงจรปิด ทำไมต้องผลักภาระให้ครอบครัวผู้เสียหายด้วย


คุณติยังกล่าวถึงอาการล่าสุดของน้องบอสว่า ตอนนี้น้องบอสรู้สึกตัว แต่ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU เนื่องจากมีอาการสาหัสจากภาวะกระดูกแตกหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณเท้าขาและชายโครง จนมีกระดูกหลายส่วนที่ทิ่มอวัยวะภายในจนเกิดเลือดออกในร่างกาย อีกทั้งกระดูกสันหลังได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งภายในสัปดาห์หน้า น้องบอสจะเข้าสู่การผ่าตัดใหญ่ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นและกายภาพบำบัดนานถึง 6 เดือน โดยส่วนตัวรู้สึกเสียใจและสงสารน้องบอสที่ต้องพลาดโอกาสในชีวิตหลายอย่างเนื่องจากประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ต้องพลาดเล่นดนตรีกับวงในเทศกาลดนตรีใหญ่ ๆที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงกลางปีและปลายปี อีกทั้งไม่รู้ว่า หลังจากฟื้นฟูสภาพร่างกายแล้ว จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติและเล่นดนตรีได้สมบูรณ์ 100% หรือไม่ อีกทั้งเป็นห่วงสภาพจิตใจของน้อง เพราะตอนนี้น้องอยู่ในอาการทรมานจากการบาดเจ็บไปทั่วร่างกายและวิตกกังวลว่าจะสามารถกลับมาเล่นดนตรีได้เหมือนเดิมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คุณติยังคงเชื่อมั่นและฝากความหวังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีเอาผิดกับผู้กระทำความผิดและตามตัวคนขับรถมอเตอร์ไซค์มาลงโทษโดยเร็ว พร้อมทั้งฝากทิ้งท้ายไปถึงคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่ยังคงหลบหนีลอยนวลว่า ให้รีบมามอบตัวเสีย มิเช่นนั้นจะถูกออกหมายจับตามกฎหมาย ยิ่งหนียิ่งไม่รอด ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ พร้อมทั้งประณามอีกว่า ทำไมถึงขับรถอย่างไม่มีจิตสำนึกและไร้ความรับผิดชอบจนเป็นเหตุให้คนคนหนึ่งต้องเสียหน้าที่การงานและอนาคตเช่นนี้

ทีมข่าวช่อง 3 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณถนนรัตนราช หน้าร้านเซเว่น พบว่าถนนมีขนาดกว้าง 4 เลน กลางถนนเป็นเส้นตีทึบ มีทางม้าลายสำหรับข้ามถนน ทีมข่าวจึงได้ลองข้ามถนน ณ จุดดังกล่าว พบว่าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงมาก เพราะรถสัญจรไปมาอย่างรวดเร็วและค่อนข้างเสี่ยงอันตราย หากไม่ใช้ความระมัดระวัง อาจถูกชนได้



ทีมข่าวช่อง 3 ได้ลองพูดคุยกับพ่อค้าทุเรียนซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่นี้ ระบุว่าบริเวณถนนตรงนี้มีความอันตรายเวลาใครข้ามถนนไปมาต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก แม้กระทั่งตนเองก็ยังไม่กล้าข้ามถนนเส้นนี้ ตามปกติถนนเส้นนี้มักจะขับรถสัญจรไปมาด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่น้องบอสถูกชนคือประมาณหนึ่งทุ่มกว่า เป็นช่วงเวลาที่กำลังเลิกงาน จึงทำให้มีรถยนต์สัญจรไปมาเยอะ


ยอมรับว่าเหตุการณ์ของน้องบอสเป็นครั้งแรกในพื้นที่ที่มีคนถูกรถชน เพราะในอดีตที่ผ่านมา ไม่ปรากฏเหตุการณ์คนถูกรถชนขณะข้ามถนนเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่อุบัติเหตุบนถนนสายนี้ มักจะเป็นรถยนต์เฉี่ยวชนกันเองมากกว่า พร้อมทั้งฝากถึงหน่วยงานรัฐ ให้ช่วยติดตั้งสัญญาณไฟเตือนบริเวณทางข้ามม้าลายดังกล่าวและฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนว่าให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และชะลอความเร็วเมื่อถึงพื้นที่บริเวณชุมชนหรือบริเวณทางข้ามม้าลาย หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยในพื้นที่นี้อีก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/HJK3RLNWCvc