สังคม

เปิดไทม์ไลน์วงจรปิด 'สาวไต้หวัน' พบอยู่ที่ด่านเพียง 47 นาที ขัดแย้งคำให้การ ผบ.ตร.สั่งเร่งทำความจริงให้ปรากฏ

โดย panisa_p

28 ม.ค. 2566

286 views

มาตามกันต่อ คดีดาราสาวชาวไต้หวัน ออกมาแฉ ตำรวจไทยตั้งด่านรีดทรัพย์ ผบ.ตร. สั่ง น.1 ส่งทีมสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม ยันไม่เข้าข้างใคร ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะคนขับแท็กซี่รับดาราสาว และเพื่อนจากด่านตรวจเข้าให้ปากคำแล้ว



กรณีดาราสาวชาวไต้หวัน ออกมาแฉว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงิน 27,000 บาท หลังมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ต่อมาตำรวจได้เชิญตัวคนขับรถแกร็บมาสด้า สีแดง เข้ามาให้ข้อมูลที่ สน.ห้วยขวาง แล้ว โดยจะนำข้อมูลไปประกอบกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่ตำรวจกำลังรวบรวมอยู่



ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจได้ติดต่อนายอดิศักดิ์ คนขับรถแท็กซี่สีชมพู-เขียว ได้แล้ว โดยเป็นรถที่รับดาราสาวไต้หวัน และเพื่อนออกจากจุดที่ตำรวจตั้งด่านตรวจ เบื้องต้น คนขับรถแท็กซี่ ให้ข้อมูลว่าผู้โดยสารได้เรียกรถให้ไปส่งที่ร้านปาร์คเทอร์เรซ แอท ห้วยขวาง อยู่บริเวณแยกห้วยขวาง แต่หลังจากส่งผู้โดยสารลงจากรถแล้ว ทั้งหมดไม่ได้เข้าไปในร้าน แต่ได้เดินไปทางตลาดห้วยขวาง ซึ่งตำรวจจะเชิญตัวคนขับแท็กซี่มาให้ข้อมูลโดยละเอียดอีกครั้ง



ขณะที่บรรยากาศที่ สน.ห้วยขวาง ล่าสุด จากการสังเกตการณ์ของสื่อมวลชนที่มาปักหลักเฝ้ารอทำข่าวนี้อย่างใกล้ชิด พบว่า คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้เข้าพบตำรวจแล้ว โดยหลบขึ้นไปทางด้านหลังแฟลตตำรวจ สน.ห้วยขวาง



ทั้งนี้ จากข้อมูลไทม์ไลน์เวลาจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่ดาราสาวชาวไต้หวัน เดินทางในค่ำคืนที่เกิดเหตุ พบว่ามีความขัดแย้งกับที่ดาราสาวโพสต์ก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า ถูกตำรวจเรียกตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่จากภาพกล้องวงจรปิดพบว่า ดาราสาวอยู่ที่ด่านเพียงแค่ 47 นาที โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้



02.14 น. ดาราสาวชาวไต้หวัน ออกจากผับย่านมักกะสัน

02.27 น. โดยสารแกร็บมาถึงที่ด่านตรวจ

02.54 น. แกร็บคันแรกที่โดยสารมาขับออกไปจากด่านตรวจ

03.14 น. ดาราสาวชาวไต้หวัน เรียกรถแท็กซี่ ให้มาส่งด้านหน้า ปาร์ค เทอร์เรซ แอท ห้วยขวาง



ด้าน พลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ได้สั่งกำชับให้ตำรวจดำเนินการตรงไปตรงมา โดยวันนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการเพิ่มเติมไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตำรวจสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนทุกประเด็น



ทั้งนี้ ผบ.ตร. ยังได้กำชับให้เร่งทำความจริงกรณีนี้ให้ปรากฏ เกิดความกระจ่างโดยเร็ว ยืนยันไม่เข้าข้างใคร ทุกอย่างต้องว่าตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เมื่อความจริงออกมาเป็นเช่นใด พร้อมที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ถ้าพบว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/VFL0P6GmshQ

คุณอาจสนใจ

Related News