ผบ.ตร. สั่งเอาผิดเสี่ยเบนท์ลีย์ หลังตรวจพบสารเสพติด - อธิบดี DSI โต้ปมรับเคลียร์คดี

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันแจ้งข้อหายาเสพติดเสี่ยเบนท์ลีย์ หลังพบสารเสพติดในเลือด ขณะที่อธิบดีดีเอสไอตั้งกรรมการสอบสวนกรณีมีกระแสข่าวเข้าไปช่วยเหลือทางคดีเสี่ยเบนท์ลี่ ยันหากทำจริงพร้อมลาออกจากตำแหน่ง



จากเหตุการณ์ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือเสี่ยจั๊บ ขับรถหรูเบนท์ลีย์ พุ่งชนปาเจโรสีดำ จนเสียหลัก แล้วทำให้รถปาเจโร ถูกรถดับเพลิง อปพร.บางรัก พุ่งชนซ้ำอีก



ต่อมาผลการตรวจเลือดของเสี่ยจั๊บจากโรงพบาลาลตำรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอลล์อยู่ที่ 10 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ และล่าสุดผลกาตรวจเลือดของเสี่ยจั๊บ ยังพบสารเสพติด ประเภทเมทแอมเฟตามีน เคตามีน ส่วนผลการตรวจปัสสาวะ พบไดะซีแดม หรือยานอนหลับ นอร์ไออะซีแพม หรือ ไอซ์ และโอปิออยด์(ยาแก้ปวด) อยู่ในร่างกายนั้น



พลตำรวจเอกดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ เสี่ยจั๊บ หลังผลการตรวจเลือดพบมีสารเสพติด



ส่วนที่พนักงานสอบสวนไม่มีการตรวจแอลกอฮอลล์หลังเกิดเหตุทันที ก่อนหน้านี้ตนเคยออกคำสั่งตั้งแต่ตอนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าต้องมีการเป่าเพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอลล์หลังเกิดเหตุทันที



แต่หากมีอาการบาดเจ็บและไม่สามารถเป่าได้ ต้องนำตัวไปตรวจเลือดเพื่อหาระดับแอลกอฮอลล์ แต่หากไม่ยอมตรวจวัดให้ถือว่า มีอาการมึนเมา



แต่สำหรับพนักงานสอบสวนในกรณีดังกล่าวที่ไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นั้น ทราบว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบความผิดต้องดำเนินการทางวินัย ส่วนจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่ต้องดูข้อเท็จจริง // และเรื่องดังกล่าวผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ต้องมีส่วนรับผิดชอบ โดยยืนยันไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น



ขณะที่พันตำรวจโทพิเชษฐ์ ก้อนแพง รองผู้กำกับการ (สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจร1 กก.2 บก.จร. สน.ทางด่วน 1 บอกว่าตอนนี้กำลังสอบปากคำแพทย์ที่ตรวจเลือดเสี่ยจั๊บเพื่อนำมาประกอบสำนวน



พันตำรวจ ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจจราจร บอกว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเรียกเสี่ยจั๊บ มาแจ้งข้อหาเกี่ยวกับสารเสพติดที่พบในเลือดได้วันไหน แต่หากได้ข้อมูลพร้อมก็จะดำเนินการเรียกมาแจ้งข้อหาทันที



ส่วนประเด็นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณี ไม่มีการให้เสี่ยจั๊บเป่าปริมาณแอลกอฮอล์ทันทีนั้น อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันตำรวจทำตามขั้นตอนของกฎหมายและวอนสังคมอย่ากดดัน



ขณะที่นาย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกมาปฏิเสธถึงกระแสข่าวว่า เข้าไปช่วยเหลือทางคดีกับเสี่ยจั๋บว่า ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้



หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นตนก็พร้อมลาออกทันที รวมถึงหากพบว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชาไปแอบอ้างก็จะดำเนินการทางวินัย ควบคู่กับคดีอาญา ซึ่งตนได้ตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้และนัดบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์มาให้ข้อมูลแล้ว