จับแล้ว 2 คนร้ายงัดเซฟห้องทำงานห้างดังในชัยภูมิ หอบ 2 ล้าน ใช้ชีวิตหรู

จับครบแล้ว 2 คนร้าย หนึ่งคนขับรถดูลาดเลา ส่วนอีกคนสวมโม่ง บุกงัดเซฟห้องทำงานห้างดังตัวเมืองชัยภูมิ ได้ทรัพย์สินไปกว่า 2 ล้านบาท หนีไกลลงภาคใต้ใช้ชีวิตสุดหรู



กรณีคนร้ายสวมโม่งบุกงัดตู้เซฟห้องทำงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ กวาดทรัพย์สินทั้งสร้อย แหวน และเงินสดกว่า 2 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงกลางดึกของวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา



ต่อมาตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และบริเวณโดยรอบ กระทั่งพบว่ามีผู้ต้องหาในคดี 2 คน ชอบลงมือก่อเหตุช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ โดยจะขับรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ตู้ทึบ ป้ายทะเบียน บล 5406 มหาสารคาม บางครั้งสลับป้ายทะเบียนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะขับไปตามห้างสรรพสินค้า ระหว่างเขตรอยต่อขอนแก่นกับชัยภูมิ



จากนั้นตำรวจได้ออกหมายเรียกนายประกาย สร้อยจรุง อายุ 32 ปี ซึ่งมีลักษณะตรงกับคนขับรถกระบะต้องสงสัย เจ้าตัวจึงเดินทางจากสมุทรปราการ มาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ หลังถูกเค้นสอบอย่างหนัก จึงรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับรถมาดูลาดเลา และได้ขับรถพานายวิเชียร อิ่มเสถียร อายุ 51 ปี ไปลงมือก่อเหตุ



วันนี้ ตำรวจได้คุมตัวนายประกาย ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากปั๊มแห่งหนึ่งที่อำเภอเมืองชัยภูมิ จุดจอดรถเพื่อดูเส้นทางการหลบหนี / จุดที่ไปซื้อน้ำดูลาดเลา / จุดจอดรถข้างห้าง / จุดงัดเข้าห้างทางด้านข้าง / และจุดหนีหลังก่อเหตุเสร็จ จากนั้นนำตัวกลับ สภ.เมืองชัยภูมิ ก่อนคุมตัวฝากขังในวันพรุ่งนี้ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ



ขณะเดียวกันตำรวจได้ขอหมายจับ นายวิเชียร อีกราย จากนั้นได้เดินทางจับกุมนายวิเชียรได้ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวานนี้ ขณะที่นายวิเชียรขับรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ สีดำ ทะเบียน ญษ 7659 กทม. ไปช็อปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง



ระหว่างถูกตำรวจโชว์หมายจับ ก็ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด เมื่อค้นตัวพบเงินไทย 50,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำ 1 เส้น บัตรเครดิต บัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ซึ่งเป็นของปลอม โดยสารภาพว่า หลังก่อเหตุได้นำทองมาขายที่กรุงเทพฯ ได้เงินมานำไปใช้จ่ายสุดหรู นอนโรงเเรม สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนม



แถมยังบอกว่า เข้าออกคุกมาแล้ว 8 ครั้ง ทั้งลักทรัพย์ งัดตู้เซฟ และตู้เอทีเอ็ม มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ได้ร่ำเรียนวิชาเพื่อมาใช้ก่อเหตุ เงินได้มาจะไปเล่นพนันออนไลน์ เพิ่งได้รับอภัยโทษเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา จากนั้นก็ตระเวนก่อเหตุซ้ำ ส่วนบัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ ได้สั่งซื้อมาทางเฟซบุ๊ก ใบละ 10,000 บาท


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/jfu8Rfxz8PU