ปลัด สธ. เชิญ ‘ชัชชาติ’ หารือ รับมือโควิด กทม.

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เชิญผู้ว่าฯกทม. หารือเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ระบาดโควิด-19 บ่ายวันพรุ่งนี้ หลังพื้นที่กทม.ติดเชื้อมากขึ้น มีผู้ป่วยเข้ารักษามากกว่า 1 พันรายต่อวัน

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ซึ่ง กทม.ถือเป็นพื้นที่เปราะบาง

และมีความเสี่ยงแพร่ระบาดมากกว่าพื้นที่อื่น เพราะมีทั้งการเดินทางและกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้น จึงเชิญผู้ว่าฯกทม. เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด 19 (ศปค.สธ.) ในวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม นี้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์

โดยกระทรวงฯ จะขอความร่วมมือ 2 ส่วน คือ การลด ละ เลิก กิจกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่เชื้อ ซึ่งผู้ว่าฯกทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร สามารถออกมาตรการต่าง ๆ ภายในพื้นที่ให้มีความเหมาะสมได้

อีกส่วน คือ การเตรียมความพร้อมรักษาพยาบาล โดยขณะนี้มีผู้ป่วยโควิดเข้ารักษาในโรงพยาบาล 2,000 รายต่อวัน และกว่าครึ่งอยู่ในพื้นที่ กทม. คือประมาณ 1 พันกว่าราย ส่วนเตียงผู้ป่วยโควิดอาการสีเหลืองและสีแดง หรือเตียงระดับ 2-3 ภาพรวมทั้งประเทศมีการใช้เตียง 13% แต่ กทม. มีอัตราครองเตียงกว่า 42%

และช่วงบ่ายคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ไปเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลสิรินธร เขตประเวศ โดยไลฟ์สด พูดคุยกับพยาบาลและเจ้าหน้าที่ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิดในเขต มีผู้ป่วย 240 คนต่อวัน ตรวจและรับยากลับบ้าน ในระบบเจอแจกจบ โดย 5 % รับเข้ารักษาไว้ในโรงพยาบาล เป็นกลุ่ม 608

สำหรับที่นี่เป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง มีไว้รักษาผู้ป่วยโควิด 60 เตียง เจ้าหน้าที่ ยืนยัน ยารักษาโควิดมีเพียงพอทั้ง 2 ชนิด ฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ไม่มีปัญหา ซึ่งวันนี้เพิ่งได้รับมาเพิ่มอีก

ส่วนสถิติผู้ป่วยโควิดในกทม.วันนี้ มี 1,454 คน โดย 10 เขตสูงสุดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ในกทม. อันดับ 1 คือ เขตลาดพร้าว 181 คน รองลงมีที่ เขตบางกอกน้อย บางแค ลาดกระบัง คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ทวีวัฒนา บางเขนและตลิ่งชันโดยคลองเตยเป็นเขตเดียววันนี้ที่ไม่มีผู้ป่วยโควิด

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/0En6hdJbiTI