สาวร้อง แฟนหนุ่มถูกโจ๋นับสิบรุมทำร้ายหน้าคอนโดฯ คาดมีคนบงการจ้างวาน

สาวร้อง แฟนหนุ่มถูกชายฉกรรจ์นับสิบเข้ามารุมทำร้ายหน้าคอนโดฯ น่วมทั้งตัว ยันไม่รู้จักใครในกลุ่มผู้ก่อเหตุ คาดมีผู้บงการว่าจ้าง



เพจเจ๊ม้อย v โพสต์คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดภายในที่จอดรถคอนโดแห่งหนึ่งในซอยทองหล่อ 25 ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนสวมหมวกกันน็อค ถืออาวุธเป็นไม้ ท่อเหล็ก บุกเข้ามารุมทำร้ายชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ก่อนจะพากันวิ่งหนีออกไป



นางสาวสุรจนา ศิริภาฤทธิ์ อายุ 31 ปี แฟนสาวของผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งแฟนกำลังจะไปส่งตนออกไปทำงาน และระหว่างที่ตนแต่งตัว แฟนก็ลงมานั่งรอข้างล่าง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ตามภาพในคลิปกล้องวงจรปิด



โดยตอนที่ตนเดินตามลงมา ก็เห็นกลุ่มคนดังกล่าวกว่า 10 คน เอาอาวุธมากำลังรุมทำร้ายแฟนอยู่ ซึ่งตนมองไปเห็นไม้ยาว จึงจะวิ่งเข้าไปหยิบออกมาเพื่อช่วยแฟน แต่คู่กรณีก็หยิบเอาไม้ขึ้นมาเงื้อมือจะฟาดตน ตนจึงร้องกรี๊ดแล้ววิ่งไปหลบ ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวจนสติหลุดไปเลย และแฟนตนก็กำลังถูกทำร้าย มีเลือดออกเยอะมาก



โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงแค่ไม่นาน กลุ่มคู่กรณีก็รีบวิ่งหลบหนีไป โดยน้องตนวิ่งตามไปดู เห็นว่ามาด้วยรถมอเตอร์ไซค์ประมาณ 4 คันและรถเก๋งสีขาว ซึ่งเอาไปจอดหลบไว้ในซอยมืดข้างๆ ซึ่งคนแถวนี้ก็บอกว่า เห็นคนกลุ่มนี้ใส่หมวกกันน็อค แต่งตัวน่าสงสัย มาวนดูลาดเลาก่อนจะก่อเหตุแล้ว



ทั้งนี้ ตนกับแฟนไม่รู้จักใครในกลุ่มผู้ก่อเหตุเลย แต่ตอนที่แฟนถูกทำร้าย มีบางคนเอามือถือขึ้นมาถ่ายภาพ ถ่ายคลิปไว้ด้วย จึงคาดว่าน่าจะเป็นการรับงานมาหรือไม่ จึงต้องถ่ายผลงานไว้ และก็น่าจะต้องการทำร้ายให้ถึงกับพิการ เพราะมีการพูดว่าให้ตีซ้ำๆ เข้าที่ขา แต่แฟนตนก็ไม่ได้เคยมีปัญหาหรือว่าทะเลาะกับใคร จึงไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเหตุขึ้น และคู่กรณีเป็นใคร



อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังทิ้งหลักฐาน อาวุธเอาไว้ด้วย ทั้งเหล็กด้ามยาว ไม้หน้าสาม เชือก รองเท้าแตะ และตนยังสังเกตเห็นว่า ด้านหลังเสื้อของกลุ่มคู่กรณีคนหนึ่งมีเขียนข้อความว่า บังมัด คลองตัน ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องอะไรกัน



สำหรับอาการของแฟน มีแผลฉกรรจ์ทั่วตัวทั้งใบหน้าและแขน ส่วนที่ขาทั้งสองข้างต้องเย็บหลายเข็ม และยังมีภาวะความดันต่ำเนื่องจากเสียเลือดมาก



โดยหลังเกิดเหตุ ตนเข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งตนต้องการเอาเรื่องให้ได้ติดคุกรับโทษถึงที่สุด รวมถึงให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วย และจะไม่มีการยอมความ เพราะหากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าตนไม่ได้อยู่ด้วย หรือว่าลงมาช้ากว่านี้ ใครจะช่วยแฟน แล้วแฟนจะมีชีวิตรอดหรือไม่ และการมาก่อเหตุในเวลาที่ผู้คนพลุกพล่านเป็นการไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนไม่อยากให้มีพฤติกรรมอันธพาลครองเมืองแบบนี้อยู่ในสังคม อีกทั้งตอนนี้ตนก็รู้สึกระแวง ห่วงความปลอดภัยของตนเองด้วย เพราะเหตุมาเกิดในที่พักของตนเอง