สังคม

ผัวช้ำเมียมีชู้ 5 คน เมียยันเลิกกันแล้วแค่ยังไม่หย่า อ้างผัวคุกคามลูก ครอบครัวโต้ที่พูดมาไม่มีคำไหนจริง

โดย paweena_c

3 ก.ย. 2567

1.4K views

วันนี้ 3 ก.ย. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน "แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ผัวช้ำ เมียคบชู้ 5 คน ขอฝ่ายหญิงกลับมาหย่า" ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีสามีจับได้ภรรยามีชู้ 5 คน แฟนใหม่ของเมียทำร้ายร่างกายลูก จนทนไม่ได้ร้องสายไหมต้องรอด โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย 'แห้ง' (นามสมมุติ) ผู้เป็นสามี และครอบครัวฝ่ายหญิง 'เอกภพ เหลืองประเสริฐ' ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และ 'ทนายแก้ว' ดร. มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ

โดย 'แห้ง' ผู้เสียหายระบุว่า ตนเองคบกับภรรยามาตั้งแต่ปี 2560 และ จดทะเบียนสมรสกันปี 2562 ก่อนจะแต่งงานกันในปี 2563 ก่อนไล่เรียงเหตุการณ์ที่จับได้ว่าภรรยาแอบคบชายหลายคน ระบุ

ประมาณปลายปี 2562 ช่วงหลังจดทะเบียนสมรส ตนเริ่มเห็นภรรยามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก่อนจะจับได้ว่ามีการแอบพูดคุยกับ 'นายเอ' ชู้คนแรก ซึ่งชายคนนี้เป็นแฟนเก่าของภรรยา ซึ่งพอตนรู้ก็ไปเคลียร์ จนภรรยาบอกว่าจะเลิกยุ่งกันไป

จนกระทั่งช่วงปี 2563 ภรรยาท้องและคลอดลูกออกช่วงเดือนสิงหาคม 2563 จากนั้นภรรยาก็ขอกลับไปทำงาน ซึ่งตนเองก็ออกจากงานมาเลี้ยงลูก และภรรยาก็ไปทำงานและมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จนตนเองมารู้ว่า ภรรยาเริ่มมีอีกคน คือนายบี ซึ่งเป็นแฟนเก่าสมัยมหาวิทยาลัย จึงเค้นถาม แต่ก็บอกว่าไม่มีอะไรและจบกันไปในช่วงปี 63 ซึ่งตนเองยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็อยู่เพราะลูก จนตนเองและภรรยาออกไปอยู่คอนโดด้วยกัน ตนยังเป็นคนเลี้ยงลูก

วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ตนเองมาทราบว่าภรรยาไปเป็นชู้ของครอบครัวหนึ่ง เนื่องจากแฟนของชู้คนที่ 3 คือนายซี ส่งรูปและคลิป ลักษณะกอด จูบ และนอนด้วยกัน ระหว่างภรรยาตัวเองและนายซี พร้อมทั้งภาพถุงยางอนามัย ในตอนนั้นตนเองช็อกมาก และมาทราบภายหลังว่า แฟนของชู้พยายามไปเคลียร์กันหลายรอบแต่ไม่จบ จึงส่งรูปมาให้ตนเอง ซึ่งตนเองพยายามขอเคลียร์แต่ไม่สำเร็จ จนเรื่องไปถึง ผอ.โรงพยาบาล สุดท้ายนายซี ชู้คนที่ 3 ก็ถูกไล่ออกจากที่ทำงาน ส่วนตนเองและภรรยาก็ไปเคลียร์ที่บ้าน

ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ ตนเองเครียดมาก ถึงขั้นไปร่ำลาลูกสาว พ่อตา แม่ยาย และแม่ของตัวเอง หวังจะไปจบชีวิตที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เคราะห์ดีมีคนมาห้ามทัน จึงกลับมาคุยกับภรรยาว่าจะขอดูแลลูกและอยู่เพื่อลูก โดยที่จะยังไม่หย่า เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกมีปัญหาครอบครัว

กระทั่งช่วงธันวาคม 2565 ภรรยาก็กลับมามีพฤติกรรมแบบเดิมอีก แต่ครั้งนี้ภรรยาได้ให้ทนายความ นัดมาคุย ซึ่งตนเองก็เอะใจ เพราะเสียงของทนายความคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินภรรยาคุยในห้องน้ำที่คอนโด หลังจากนั้นได้นัดคุยกันกับภรรยาพร้อมทนาย ตนถามว่าจะฟ้องหย่าในประเด็นอะไร ภรรยาก็บอกว่า ตนเองคุกคามทางเพศลูกสาว ซึ่งตนก็แย้งไปว่า ลูกเพิ่งอายุไม่กี่ ขวบตนเป็นพ่อก็เลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งอาบน้ำให้ และก็สอนวิธีการทำความสะอาดร่างกาย ในฐานะคนเป็นพ่อและทำงานด้านการแพทย์ แต่ภรรยาไม่ยอม เขาเอาลูกไปอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาย และตนก็ถามว่าผู้ชายที่มาช่วยเรื่องคดีเป็นทนายจริงหรือไม่ ทางภรรยาและผู้ชายคนนั้นก็ยืนยันว่าเป็นทนาย แต่ตนไปหาประวัติกลับไม่พบ

ช่วงกุมภาพันธ์ 2567 พ่อกับแม่ของภรรยาก็เห็นว่า ภรรยาได้พาทนายซึ่งเป็นชู้คนที่ 5 มานอนที่บ้าน ซึ่งตนก็ตกใจ และช่วงมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงวันเกิดของตนเอง ก็เห็นว่าภรรยาไปเที่ยวเมืองจีนกับทนายคนดังกล่าว มีการถ่ายรูปลงโซเชียลกันอย่างเปิดเผย ทั้งที่ยังไม่ได้หย่ากับตนเอง และภรรยาก็เอาลูกไปอยู่ที่บ้านของชู้ ซึ่งตนพยายามขอพบลูก แต่ก็ถูกกีดกัน รวมถึงพ่อตาแม่ยาย ก็ถูกกีดกันไม่ให้พบหลาน

จนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ภรรยาตนโทรมาหาพ่อแม่ของเขา บอกถูกชู้คนที่ 5 ทำร้าย เนื่องจากถูกจับได้ว่า ภรรยาตนไปมีชู้อีกคน ซึ่งเป็นชู้คนที่ 4 ที่เป็นอาจารย์หมอ ทำให้ชู้คนที่ 5 ระแวงและทำร้าย ซึ่งตอนนี้ ภรรยาตนท้องกับชู้คนที่ 5 ได้ 2 เดือนแล้ว

ที่ผ่านมา ตนเองได้ผลกระทบเรื่องการจ่ายค่าบ้าน โดยที่ภรรยาคนนี้ไปกู้ธนาคารมา 2,500,000 บาท ช่วงแรกยังส่งค่าบ้านปกติ หลังจากนั้นขาดส่งมา 4-5 งวด หลังจากนั้นตนเองต้องวางเงินส่วนตัว 80,000 บาท เพื่อจ่ายค่างวดบ้าน เพราะกลัวถูกยึด จนตอนนี้ตนเองตัดสินใจไม่จ่ายค่างวดบ้านแล้ว หลังทราบว่าเมียมีชู้และไม่ผ่อนบ้าน จากนี้จะปล่อยให้ทางกฎหมายดำเนินการ ซึ่งศาลเรียกคุยกัน 30 กันยายนนี้ เพราะภรรยาเอาเงินที่กู้ และที่เหลืออยู่ไปใช้ส่วนตัวแล้ว

การร้องเรียนครั้งนี้ ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องของการฟ้องชู้ เพราะตนต้องการดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งชู้คนที่ 5 มีพฤติกรรมข่มขู่ อ้างว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโต กลัวว่าตนและครอบครัวจะไม่ปลอดภัย และต้องการจะหย่ากับภรรยา ในตอนนี้อยากจะสนใจแค่ลูก

ด้านครอบครัวของฝ่ายหญิงได้เล่าว่า ฝ่ายหญิงชอบพูดใส่ร้าย 'นายแห้ง' ก่อนหน้านี้ ฝั่งพี่สาวได้สั่งห้ามไม่ให้ทนายคนนั้นเข้ามาในบ้าน เพราะกลัวมีความผิดไปด้วย หากมีการฟ้องชู้กัน แต่น้องก็ยังพาทนายไปเที่ยวและมาที่บ้านตลอด

และช่วงออนไลน์ฝ่ายหญิงได้โฟนอินเข้ามาในรายการพร้อมเล่าว่า ที่เธอทำไปมีเหตุผล ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับอาจารย์หมอ (ชู้คนที่ 4) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้เลย และช่วงที่ออกไปอยู่ด้วยกันสามีไม่เคยช่วยออกเงินค่าใช้จ่ายสักอย่าง ย้ำว่า แค่อยากมีครอบครัวที่ดี สงสารลูก อยากให้ครอบครัวและลูกมีอนาคต พร้อมยืนยันว่าจบกันไปแล้วกับ 'นายแห้ง' ก่อนจะไปคบหากับทนาย และยืนยันว่าทนายไม่เคยตีลูกเลยสักครั้ง มีไม่ถูกใจกันบ้าง แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย

พร้อมเผยความในใจ ตอนแรกไม่ได้อยากจะแต่งงานกับแห้งอยู่แล้ว ทั้งยังอ้างถึงครอบครัวของเธอเองว่า พี่สาวกับพ่อเลี้ยงแอบคบหากันอย่างลับ ๆ จะพูดอะไรก็อยากให้ฝั่งครอบครัวคิดดูดี ๆ ว่าทำอะไรลงไปบ้าง

ต่อมาฝั่งครอบครัวฝ่ายหญิงและนายแห้ง ได้โต้กลับว่า ที่ฝ่ายหญิงพูดออกมาไม่เป็นความจริงเลยสักอย่าง ตัวพี่สาวของฝ่ายหญิงมีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นผู้หญิง คบมานานกว่า 10 ปี แล้ว ไม่ได้ชอบผู้ชายและไม่เคยมีอะไรแบบที่น้องพูดออกมา ที่น้องพูดออกมานั้น น้องสาวแค่อยากออกจากบ้านไปสร้างครอบครัว แต่แม่ไม่อยากให้ออกไปไหนเพราะเป็นห่วง น้องสาวเลยใส่ร้ายครอบครัว ด้านแม่ก็เผยว่าสะเทือนใจมากกับที่เรื่องนี่เกิดขึ้น และไม่เชื่อว่าลูกสาวคนโตและสามีจะทำเรื่องดังกล่าว

พี่สาวกล่าวต่อว่า ตัวน้องสาวชอบพูดอวดว่ามีเงินและทำพินัยกรรมเอาไว้ พร้อมมีตู้เซฟเก็บเงิน 500 ล้านบาท อยู่ที่บ้านพี่สาว ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน นายแห้งยืนยันว่า ช่วยออกค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ รวมทั้งยังคอยดูแลงานบ้าน และแม่ของฝ่ายหญิงมาตลอด

ด้านความเห็นของ 'ทนายแก้ว' แนะนำว่า เรื่องนี้สามารถร้องสภาทนายความเรื่องการกระทำของทนายคนนั้นได้เลย การฟ้องชู้และการฟ้องหย่าก็สามารถทำได้ เพราะมีหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะพูดยังไง การกระทำการนอกใจไม่ว่าจะทางไหนก็ไม่ควรทำ สามีสามารถดำเนินคดีได้ และเรียกค่าทดแทน และลูกของนายแห้งกับฝ่ายหญิง ต้องให้ศาลมีคำสั่งมาตัดสินว่าใครจะเป็นผู้เลี้ยงดู

ส่วนความเห็นของ 'เอกภพ เหลืองประเสริฐ' มีความเห็นว่า ความทะเยอทะยานไม่ผิด แต่ไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบหรือเห็นแก่ตัว จนไม่เป็นหัวครอบครัว พร้อมแนะว่า "เมียที่ดี คือเมียใหม่" ฝ่ายหญิงต้องคิดให้เยอะ ควรรู้ว่าทำอะไรลงไป


คุณอาจสนใจ

Related News