กฎหมายฆ่าคน! ‘ครูชัยยศ’ พ้อถูกปลดพ้นราชการ หลังเหตุเซ็นรับรองค่าอาหารเป็นเท็จ ยันไม่เคยมีเจตนาทุจริต

โหนกระแสวันนี้ (8 ธ.ค.66) พูดคุยกรณี “ครูชัยยศ” ครูโรงเรียนบ้านยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกปลดออกจากราชการปมอาหารกลางวัน  ก่อนที่ ป.ป.ช.จะออกมาแจงเหตุที่แท้จริง ว่าไม่ใช่เพราะอาหารกลางวัน แต่เพราะครูชัยยศเซ็นเอกการเท็จ ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง  พร้อมพูดคุยกับ นายชัยยศ สุขต้อ อดีตครูโรงเรียนบ้านยางเปา และนายนายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาฯรักษาการ ผู้ตรวจราชการสำนักงานป.ป.ช.และรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.

ครูชัยยศชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองไม่รู้เรื่องงบอาหารกลางวัน เท่าไหร่อย่างไร ตนมีหน้าที่เซ็นเอกสารที่ครูบุณยนุชนำมาให้เซ็นว่าซื้อวัตถุดิบอะไรบ้าง เท่าไหร่ ครบไหม ตรงกันหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาทุจริต

ในกระบวนการ ถ้าครูบุณยนุชเอาเอกสารมาให้เซ็นตนก็ต้องเซ็น เพราะถูกแต่งตั้งมาให้ทำหน้าที่นี้ จะไม่เซ็นก็ไม่ได้ ส่วนเรื่องจำนวนเงิน งบเท่าไหร่ยังไงตนเองไม่เคยรู้ เพราะอยู่นอกเหนือหน้าที่

ขณะที่นายภูเทพ  รองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ถ้าครูชัยยศไม่เซ็นรับรองครูปุณญนุชก็เบิกเงินไปไม่ได้ พอไปตรวจสอบแล้วพบความผิดปกติ สอบถามบุณญนุชก็โบ้ยว่า ถ้าครูชัยยศไม่เซ็นเธอก็ทำอะไรไม่ได้  เลยต้องมาตรวจสอบครูชัยยศด้วย จึงพบว่ามีการเซ็นเอกสารเลยเลี่ยงที่จะเอาผิดไม่ได้

ขณะที่ครูชัยยศ ยืนยันว่า ที่ตนมาออกโหนกระแสวันนี้อยากมาเรียกร้องความยุติธรรม ตนเข้าใจว่ามันผิดกฎหมาย แต่เรื่องการเอาผิดอยากให้มองที่เจตนาควบคู่กันไปด้วย มลทินตรงนี้เหมือนฝัน ตนมั่นใจว่าตนไม่ผิด ตนไม่เคยมีเจตนาทุจริต

ทุกอย่างยึดตามเอกสาร ซึ่งตามความเข้าใจ ตนเข้าใจว่าจำนวนเงินที่เขาเอามาให้เซ็นมันถูกต้องแล้วและก็เป็นครูเหมือนกัน ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรตุกติก เขาตั้งให้ตนมาทำหน้าที่เซ็นเอกสาร ตนก็ต้องเซ็นจะไม่เซ็นก็ไม่ได้ ยืนยันว่าตนไม่ทำเรื่องทุจริตแน่นอน ไม่ทรยศอาชีพตัวเองแน่นอน

ในส่วนที่โดนชี้มูลความผิด คือเอื้อให้ผู้อื่นทุจริต ผิดวินัยร้ายแรงเลยถูกให้ออกจากราชการ จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม

ถามว่าเครียดไหมครั้งแรกก็ช็อกว่าเราผิดขนาดนี้เลยหรอ  แต่ตนก็ผ่านอะไรมาเยอะโดยเฉพาะความตาย เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องบอกว่า อย่าไปเศร้าโศกกับมัน ตนตั้งรับแต่ไม่ยอมรับ ตนถือว่าตัวหนังสือฆ่าคน กฎหมายฆ่าคน เราเป็นราชการแต่เราโดนข่มจากตัวหนังสือ ตนอ่อนใจกับระบบ เหมือนโดนรังแกโดยไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไป

ในมุมของตน อยากขอความเป็นธรรม ให้พิจารณาเรื่องเจตนา ตนเสียสละมาตลอด แต่มาทุจริตแบบนี้มันตรงกันข้ามเลย ตนได้รับในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ อยากให้พิจารณาใหม่

ด้านนายภูเทพ บอกว่า มันเป็นกฎหมายระเบียบที่ใช้กับสังคม ไม่ได้ใช้กับบุคคลใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องงบประมาณแผ่นดิน เป็นเรื่องของเงินภาษีประชาชน ก็เลยต้องมีการตรวจสอบ พอมีการยื่นเรื่องร้องเรียนมา ป.ป.ช.ก็ต้องตรวจสอบตามหน้าที่เท่านั้น