หนุ่มร้องถูกบุกบ้านทำร้าย อีกฝ่ายอ้างโดนมองหน้าหาเรื่อง

รายการโหนกระแสทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จัดรายการในตอน ตกลงยังไงแน่! หนุ่มร้องผมถูกกระทืบแต่ถูกสังคมด่า หาว่าไปหาเรื่องเขาก่อน

เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ร้องเรียนมาว่าถูกทำร้ายถึงบ้าน และลูกถูกเตะ แต่มีคนมาแย้งว่า ไม่ใช่อย่างนั้นและผู้ที่โดนทำร้ายเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนโดยมี “ศาสตรา”  ผู้ร้องเรียน “ธนู​“ พ่อของศาสตรา และ​ ทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรวัฒนาร่วมรายการ

โดย “ศาสตรา” เล่าว่ากลับบ้านซื้อกับข้าวมากินกับลูกแต่น้ำแข็งหมดเลยไปซื้อที่ร้านประจำ  แต่ร้านค้าปิด  เลยเจอวัยรุ่รที่นั่งสี่แยกเรียกเข้าไปและกลุ่มวัยรุ่นก็ลุกขึ้นมา แล้วบอกว่ามีอะไรกับกูไหม   ตนเห็นเขาลุกเลยดึงคัตเตอร์ออกมา ตนเลยเดินถอยหลังออกมา  ก่อนที่จะหนีและถูกขวดปาใส่ จากนั้นก็วิ่งเข้าบ้าน และปิดประตูรั้ว เขาก็พังประตูรั้วเข้าไป เลยให้ลูกถ่ายคลิปไว้  เมื่อเขาเข้ามาได้ก็เอาหินทุบหัวตน  

ธนูเล่าว่า  ตนกลับบ้านจะมากินข้าว พอมาถึงกำลังเจอลูกถูกทำร้าย และเขาก็รุมตน เอาหินทุบจนกระจกหมวกกันน็อกหลุด ตนทรุดไปทำอะไรไม่ได้แล้ว  ก่อนที่ลูกจะมาดึงเข้าบ้าน

ศาสตราบอกว่า ลูกของตนก็ถูกเตะกระเด็น เพราะบอกว่าอย่าทำปู่ โดยเป็นการบุกเข้ามาทำร้ายในเขตรั้วบ้าน  แล้วคนแก่จะกลับไปหาเด็กวัยรุ่นว่ามีปัญหาอะไรเหรอ เป็นไปไม่ได้

เมื่อทนายแก้วถามว่าทำไมพกมีด   นายศาสตราบอกว่า  ตนพกไว้กรีดกล่องพัสดุ ซึ่งเป็นงานของตัวเอง​ โดยยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุไม่ได้ยั่วยุ ​ตอนขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ก็ไม่ได้ปะทะวาจากัน  ตอนเช้ายังคุยกันดีๆอยู่เลย

“เค้าเมาอ่ะ คนเมาอ่ะ ตอนนี้แจ้งความเรียบร้อยแล้ว” ศาสตรากล่าว

ต่อกรณีที่บอกว่าก่อนเกิดเหตุเพราะ “ธนู” พ่อของศาสตราไปหาเรื่องกลุ่มวัยรุ่นก่อน โดยตะโกนด่ากลุ่มวัยรุ่น และโทรเรียกศาสตราออกมาหาเรื่อง

โดยธนูยืนยันว่าไม่ได้ทำเช่นนั้น ผมสาบานได้เลย

ด้าน “อ๊อด”ผู้ให้ข้อมูลอีกด้าน บอกว่าา คุณพูดมาจริงไหมว่าผมเป็นพวกฝั่งนี้และรับเงินฝั่งนี้และให้ข่าว  ไม่ได้พูดไม่เป้นไร  ในฐานะเพื่อน  คุณมันแรงไป เอาความจริงมาพูดสิ จะได้จบๆกัน

และอ๊อดเล่าว่า เรื่มจากลุงผ่านมา ก็มองด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ ซึ่งทางนี้ก็ดื่มอยู่ ขณะที่ลุงใส่หมวกกันน็อกได้ยินอะไรก็ไม่แน่ใจ สักครู่งลุงวนกลับมาและมองทางนี้ก็เอ่ยว่า “อะไร ลุงมีอะไร” ลุงเลยหันหัวปักเข้าไป ทางนั้นก็เลยลุกขึ้นมา ลุงเลยขับหนีไปและไปจอดอีกหนึ่งรอบ  ตนก็ไปห้ามและบอกว่ามากินให้สนุกดีกว่าไหม จากนั้นลุงก็ขับไปอีกหนึ่งรอบ และ ศาสตรา ก็ขับรถมา และบอกใครแจกกล้วยพ่อ(..)   คนชื่อปรินท์ ก็เลยลุกมาแล้วบอกจะมีเรื่องเหรอ จากนั้นศาสตราก็ควักมีด  

จากนั้นอ๊อดบอกว่า คนไปซื้อน้ำแข็งคงไม่ต้องพกคัตเตอร์มามั้ง  ขณะที่ศาสตราแย้งว่าคัตเตอร์มีไว้กรีดกล่องพัสดุอยู่แล้ว
ซึ่งอ๊อดก็เถียงว่า คัตเตอร์มันต้องอยู่ใต้เบาะ ทำให้ศาสตราแจ้งว่า รถผมมีกระเป๋าหน้าครับ

ขณะที่ทนายแก้วก็ถามว่า พูดอะไรในกลุ่มตอนที่ขับรถไปไหม โดยอ๊อดบอกว่าเป็นการมองกันพร้อมปฏฺิเสธว่าไม่มีการทำร้ายเด็กเพราะมีคนพยานตั้งแยอะและหากมีก็ต้องเห็น

จากนั้น “เหมียว” ซึ่งเป็นภรรยาของ “อ๊อด” ก็ได้โทรศัพท์มา บอกว่าอยู่ในเหตุการณ์​ด้วย โดยพ่อเขาขี่รถมาบอกว่านึกว่ามีใครเรียกวิน แต่เขากินเหล้าอยู่ใครจะเรียก ลุงก็ชะลอมองหน้าเหมือนจะหาเรื่อง

“ที่พี่บอกว่ามาซื้อน้ำแข็งซื้อตรงไหนคะ เขาขี่รถมาจอด มาจอดคร่อมรถถามว่าใครให้กล้วยพ่อกู  พวกนี้ก็เลยลุกว่ากูเองมีอะไร  เขาก็ชักมีดเด้งดึ๋งขึ้นมา ไม่ใช่คัตเตอร์​  พี่กล้าสาบานไหม”

“คนในซอยมีเป็นสิบๆตา กล้ายืนยันว่าสิ่งที่หนูพูดเป็นความจริง​ พวกนั้นนก็ถามว่ามีอะไร จากนั้นก็ถือมีดไปและถอยหลัง พอถึงหน้าบ้านพี่ก็ด่าพ่อแม่เขา ใครจะอดใจไหว” เหมียวเล่า

จากนั้นเหมียวได้ถามว่าใครตบลูกของศาสตรา โดยธนูบอกว่าคนชื่อปรินท์ กับ โอ๊ค

ขณะที่ศาสตรายืนยันว่าตนไม่ได้ไปหาเรื่อโดยจะไปหาเรื่องได้อย่างไร ตนตัวคนเดียว

ขณะที่เหมียวบอก่า ธนูชะลอมองหน้า เขาก็รู้ว่าทางนี้กินกันอยู่ แทนที่จะขี่ไปเลย  
เขามองหน้าหาเรื่อง​

ส่วน “ศาสตรา” บอกว่า จากนี้ก็จะสู้ในรูปคดีไป  ทำให้ “เหมียว”สวนว่าถ้าแบบนี้แต่แรกก็จบพี่ไม่ต้องร้องสื่อมากมาย

ขณะที่ศาสตราบอกว่า ถ้าไม่ใช่ลูกไม่ใช่พ่อไม่รู้สึกหรอก  

ตอนท้ายมีการปะทะคารมกันอีกครั้ง โดยผู้ดำเนินรายการถามว่า ศาสตราและธนุจะกินก๋วยจั๊บร้านเขาต่อไหม โดยตอบว่า ไมกินแล้ว ส่วนเหมียวก็สวนทันควันว่า หนูก็ไม่ขายไม่ต้องกินหรอกค่ะ  



กรณีหนุ่มถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกบ้านทำร้ายร่างกาย แต่กลับมีข้อมูลจากอีกฝั่งว่าถูกหาเรื่องก่อน

โหนกระแส (21 เม.ย.  2566)