จบที่สองแสนห้า เพื่อลูก “หนุ่มผีน้อย” เจรจาเมียถูกหวยรางวัลที่ 1

หนุ่มทำงานเกาหลี อ้างเมียกลับไทย ถูกรางวัลที่ 1 ไม่แบ่ง  ด้านเมียยืนยันเลิกขาดตั้งแต่ปี 2562  เงินทุกบาทเป็นเรื่องโอนให้ลูก สุดท้ายจบที่สองแสนห้า  


วันที่ 13 มี.ค. 66 โหนกระแส จัดรายการในตอน “ผัวช้ำ! เมียรักถูกหวย 12 ล้าน ชิ่งหนีแต่งงานชายอื่น ฝ่ายหญิงโต้เลอะเทอะ” โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย  “เอก”  สามี   “ตาล” น้องสาวของเอก  และ ปิยะณัฐ สุขยัง ทนายความ นอกจากนี้ยังมี “หวี” ภรรยาโฟนอินเข้ามาด้วย  

เรื่องนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ นายเอกไปร้องว่าตนและภรรยทำงานที่เกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย แต่ต่อมาภรรยาต้องกลับมาเพราะท้อง และได้ส่งค่าเลี้ยงดู แต่เมื่อภรรยาถูกลอตเตอรี รางวัลที่ 1 แต่เมื่อตนกลับมากลับพบว่า ภรรยาแต่งงานใหม่ ภรรยาที่ถูกรางวัลที่ 1 แต่ไม่ยอมแบ่งเงินให้

โดยเอกยืนยันว่าตนต้องมีส่วนในเงินที่ภรรยาถูกรางวัลที่หนึ่ง โดนอยู่กินกันมายี่สิบปี และไปเกาหลีด้วยกันตั้งแต่ปี 2557  ต่อภรรยาก็ตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนเลยให้กลับบ้านในปี 2559 เมื่อกลับมาตนก็ทำงานและส่งเงินให้ลูกเมีย และวางแผนจะซื้อรถ ในปี 2561 โดยดาวน์ไปสองแสนห้า ระหว่างนั้นก็โอนเงินมาให้ใช้จ่ายในบ้าน โดยการคุยกับภรรยาจะโทรศัพท์คุยเท่านั้น

จากนั้นปี 2562 รถก็ประสบอุบัติเหตุ จึงให้เอารถไปซ่อมและขาย ต่อมา 1 มีนาคม 2564 ภรรยาถูกหวย 12 ล้าน ตอนที่กลับมาภรรยาก็อยู่บ้านเฉยๆไม่ได้ทำงาน

เมื่อถามว่ามีการบอกเลิกกันหรือไม่ นายเอกบอกว่า มีการทะเลาะกันเรื่องบุคคลที่สาม  และยอมรับว่ามมีการบอกเลิกกัน โดยบอกก่อนรถชนในปี 2562 ที่บอกเลิกเพราะทะลาะกันเรื่องบุคคลที่สาม พอโทรไปก็มีแต่ลูกอยู่แต่แม่ไม่เคยอยู่ ตนก็เลยน้อยใจโกรธและมีอารมณ์ชั่ววูบเลยบอกไป อย่างไรก็ตามจากนั้นก็มีการพูดคุยกัน โดยตนโทรไปหาที่โรงพยาบาล และให้เอารถไปซ่อม โดยเขาตีราคาซ่อมสองแสนห้า

ที่ผ่านมาโอนค่าเลี้ยงดูทุกเดือนประมาณสามหมื่น โดยโอนเข้าบัญชีภรรยา ต่อมา 1 มีนาคม ปี 2564 ก็จ่ายเงินอย่างไม่เคยขาดแม้แต่เดือนเดียว โดยที่ตนออกมาเรียกร้องเพื่อต้องการแบ่งกรรมสิทธิ์ เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรส  


ต่อมารายการได้ต่อสายหา “หวี”  ภรรยา โดยได้ระบุว่าตั้งแต่กลับมายังไม่ได้คุยกัน และบอกว่าได้บอกเลิกกันตอนปี 2562  

ซึ่งเอกยืนยันว่าหลังบอกเลิกก็คบกันต่อจนถึงถูกหวย โดยที่ผ่านมาได้จ่ายค่าเลี้ยงดูและค่างวดรถ โดยหวียืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการจ่ายค่าเลี้ยงดู และถามว่า ทำไมเมื่อกลับมาทำไมไม่มาหาลูกก่อน แต่กลับมาเรียกเงินก่อน

เอกบอกว่าเพราะน้องไม่ให้ไป ซึ่ง “ตาล” บอกว่าที่ไม่ให้ไปเพราะผู้หญิงจะแต่งงานใหม่ เพราะกลัวพี่ชายจะเสียใจ

ขณะที่หวีก็บอกว่าเลิกกันตั้งแต่ปี 2562 และเลิกขาดแต่เขาติดต่อมาทางลูก โดยไม่ได้ติดต่อมาในเชิงคู่รัก

แต่เอกบอกว่าถ้าเลิกทำไมตนไปใช้หนี้ให้  และให้เงินไปขายของ โดยหวีบอกว่าลูกยังเล็ก ส่งเงินมาเท่าไหร่ และส่งมาก็ส่งค่างวดรถ เมื่อเงินไม่พอใช้ตนก็ไปขายลูกชิ้น  โดยที่ผ่านมามีการโอนให้ลูกสาว

ขณะที่น้องสาวเล่าว่า  เค้ามีปัญหากันจริง น่าจะมีปัญหากันปลายปี 62 จนถึงปี 63 มีปัญหาหนักมาก เพราะพี่สะใภ้โทรมาปรึกษา ว่าเขาทะเลาะกันเรื่องมือที่สาม  เราก็ไม่อยากให้ครอบครัวเขาแตกแยก  พี่ชายเขาก็ส่งเงินให้เมียตลอด หลังจากที่มีปัญหาเขาก็ไม่ไว้ใจเมีย เขาเลยส่งเงินมาให้เราแทน ประมาณกลางปีหกสามเพื่อส่งให้ลูกและเมีย

ด้านหวีก็ยังยืนยันว่าได้เลิกกันตั้งแต่ปี 2562  ซึ่งเอกไปบอกกับพ่อตาว่ายังไงผมก็ไม่เอาคืน อย่างไรก็ตามเอกก็ปฏิเสธว่าไม่เคยพูดอย่างนี้  

ต่อมาผู้ดำเนินรายการถามว่าตอนนี้ต้องการอย่างไร   ทำให้ “เอก” ตอบว่า   “ผมจะได้เท่าไหร่ถ้าเกิดฟ้องขึ้นมา  ถ้าผมมีสิทธิ์ได้ครึ่งหนึ่งก็จะเอาครึ่งหนึ่ง”

“และถ้าเลิกกันจะใช้หนี้ให้ทำไม” เอกระบุ

อย่างไรก็ตามในรายการฝั่งเอกได้พยายามนำหลักฐานการโอนเงินมาแสดง แต่เป็นการโอนเงินให้ลูก

เมื่อถามว่า 1 มีนาคม 2564 เลิกหรือยัง “หวี” ยืนยันว่าเลิกแล้ว ตัดขาดกันแล้ว หากจะติดต่อก็ติดต่อมาหาลูก นอกจากนี้เอกยังบอกด้วยว่าได้โอนเงินมาให้รวมถึงเงิน 10,000 บาทที่เป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปขึ้นเงินลอตเตอรี โดยโอนผ่านทางลูก แต่หวียืนยันว่าตัวเธอไม่ได้ใช้เงินดังกล่าว

ขณะที่เอกเล่าว่าที่ตอนนั้นไม่กลับเมืองไทย เพราะเคยบนว่าเมื่อถูกหวยจะไปสร้างซุ้มประตูสองล้าน แต่เมื่อเขาไม่ให้จะกลับมาได้อย่างไร เพราะตนต้องไปบวชด้วย

ด้าน “หวี” บอกว่าเขาเคยขอ ตนเลยบอกทำไมไม่บนให้ตัวเองถูก

อย่างไรก็ตามในตอนท้ายได้มีการเจรจา โดยมีการถามตัวเลข ซึ่งตั้งต้นมาจากค่าดาวน์รถ  ซึ่งเอกระบุว่า สองแสนห้า จบเลยก็ได้

ขณะที่หวีบอกสองแสนขาดขาด  ถ้าไม่คิดถึงหน้าลูกก็มาสู้กันต่อไป

อย่างไรก็ตามมีการเจรจาทำให้เธอบอกว่า สองแสนห้าถ้ามีอะไรอย่ามาติดต่อกันอีก  พร้อมบอกว่า “หนูให้สองแสนห้าจบขาดกันเลยค่ะ”

ส่วน เอกก็บอกว่า  “ผมจะทำเพื่อลูกเอาแค่นี้ก็ได้ครับ”