อภิชาตผัว! สามีให้อภัย เมียหอบเงินถูกรางวัลที่ 1 หนีไปกับชู้ ด้านเมียปากแซ่บ อ้างมีชื่อบนสลาก ลั่นมีสิทธิ์ตามกฎหมาย

โหนกระแสวันนี้ (18 พ.ย.65) พูดคุยกรณี ชายถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 6 ล้านบาท ก่อนฝากเงินเก็บไว้ในบัญชีภรรยาที่อยู่กินกันมา 26 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส สุดท้ายโดนเชิดเงินหนีไปกับชู้ ขอคืนก็ไม่ให้ อ้างไม่ได้เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย 

พร้อมพูดคุยกับ สามี ลูกชาย ลูกสะใภ้ และเพื่อนภรรยา  พร้อมด้วย ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ

นายมะนิช ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้ซื้อสลากโดยใช้เงินตัวเองจนมาทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน  ไปด้วยกันกับภรรยา ให้ภรรยาไปขึ้นเงิน และเก็บเงินไว้ในบัญชีของภรรยาเพราะตนไม่มีบัญชี  โดยได้เงินมา 5,970,000 มีการเขียนชื่อไว้หลังสลากทุกอย่าง แต่ให้ภรรยาเป็นคนทำ เพราะตนเองไม่รู้หนังสือ

จากนั้นก็ขอเงินจากภรรยามาเปิดบัญชี 1 ล้านบาท แล้วขออีก 2 แสน เพื่อมาทำบุญบ้าน โดยเพิ่งมารู้ทีหลังว่า ในวันงานภรรยาได้พาชู้มาด้วย แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นชู้ เพราะภรรยาแนะนำว่าเป็นญาติ และหลังจากงานทำบุญบ้านไม่กี่วัน ภรรยาก็หายตัวไปพร้อมเงินทั้งหมด โดยมาทราบว่าได้ไปกับชายชู้  

ส่วนตัวตนกับภรรยาไม่ได้จดทะเบียนกันตามกฎหมาย แต่ภรรยาไปจดทะเบียนกับญาติตน ซึ่งเป็นทหารผู้พิการ เนื่องจากตนสงสารเขาไม่มีคนดูแล ก็ให้จดทะเบียนเพื่อได้รับสิทธิ์เยียวยาผู้พิการต่างๆ แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลย ก็ช่วยดูแลกันไปเพราะเขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  

ที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อภรรยาเพื่อขอเงินคืน แต่ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ แม้จะขอไว้ให้เป็นทุนการศึกษาลูกก็ตาม

ต่อมาภรรยาได้โฟนอินเข้ามาในรายการ ยืนยันว่า จะไม่คืนเงิน เพราะเงินเป็นของเธอ มีหลักฐานทุกอย่าง ทำไมเธอจะไม่มีสิทธิ์ ดูได้หลังสลากว่าเป็นชื่อใคร ขึ้นเงิน เข้าบัญชีใคร จะไม่ใช่ของเธอได้อย่างไร เธอมีสิทธิ์ตามกฎหมาย เพราะนายมะนิชไม่ใช่สามีเธอ ไม่ได้ใช้นามสกุลร่วมกัน ไปเช็คได้ใครคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเงินก็จะแบ่งโอนให้ลูกคนกลางและลูกสาวคนเล็ก ส่วนสามีไม่ให้แล้วเพราะให้ไปก่อนหน้านี้แล้ว 1 ล้าน  

ด้านทนายแก้วได้อธิบายว่า กรณีนี้นายมะนิชไปถอนไปขึ้นเงิน โดยมีการบอกกับภรรยาว่าฝากเก็บไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยโอน กรณีถือว่าเป็นการถือแทน ซึ่งนายมะนิชมีสิทธิ์ไปทวงคืน และถ้าภรรยาไม่ให้คืนสามารถไปแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ได้ และถ้ามีการสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลภายนอก บุคคลภ่ายนอกก็จะมีความผิดฐานลักของโจรได้ แต่ถ้าสามารถเจรจากันได้ ก็จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด