ยอดจองวัคซีน กทม.วันแรกทะลุ 2.4 ล้านคน / ปธน.สหรัฐฯ สั่งตรวจสอบต้นตอโควิด-19 ใหม่

ยอดจองวัคซีนโควิด-19 กทม.วันแรกทะลุ 2.4 ล้านคน

ร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. เผยการเปิดรับลงทะเบียนจองคิวการฉีดวัคซีนวันแรก มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 2 ล้าน 4 แสนคน ทั้งกลุ่มผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มผู้ประกันตนในมาตรา 33 มาตรา 39 และ มาตรา 40 และกลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ยังไม่พบการรายงานปัญหาหรือข้อร้องเรียนใดๆ ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 7 มิถุนายนจนถึงเดือนกรกฎาคม และข้อมูลทั้งหมดที่มีการลงทะเบียนจะถูกส่งไปรวมกันที่ระบบฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอยืนยันว่าทุกคนที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งผู้ที่มีทะเบียนบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5.7 ล้านคน และประชากรแฝงรวม 10 ล้านคน จะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน ส่วนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ใน กทม. ขอรอความขัดเจนจากการหารือก่อนว่าจะเป็นหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ

ด้าน นายกฤษณะ วจีไกลลาศ กรรมาธิการเลขาธิการหอการค้าไทย มั่นใจว่าจุดบริการการฉีดวัคซีน 25 จุดที่ทางกรุงเทพมหานครร่วมกับทางหอการค้าไทย ที่จะเปิดให้บริการ 7 มิถุนายนนี้ จะดำเนินงานได้คล่องตัว ทั้งนี้จะมีการจัดสรรวัคซีนตามความเหมาะสมไม่มีการเลือกหรือระบุยี่ห้อได้เอง แต่คาดว่าจะเป็นวัคซีน ของแอสตราเซนิกาที่จะได้รับการจัดสรรในช่วงเดือนมิถุนายน

กลุ่มผู้ป่วยโควิดประท้วง รพ.สนามเพชรบุรี อากาศร้อน

เกิดเหตุวุ่นวายในโรงพยาบาลสนามที่ 1 โรงงานอิเลคทรอนิกส์ จังหวัดเพชรบุรี โดยผู้ป่วยโควิด-19 รวมตัวประท้วง ไม่พอใจเรื่องอากาศร้อน

กลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นแรงงานชาวเมียนมา ที่อยู่ในโรงพยาบาลสนามที่ 1 โรงงานอิเลคทรอนิกส์ ในอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี รวมตัวกันประท้วง ไม่ยอมอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ทำให้แพทย์และพยาบาล ต้องหลบไปอยู่ในโรงพยาบาลสนามที่ 2 สาเหตุคาดว่าไม่พอใจเรื่องอากาศร้อน ขณะนี้มีการระดมตำรวจและฝ่ายปกครองเข้าควบคุมสถานการณ์แล้ว

บุรีรัมย์พบคลัสเตอร์ร้านกาแฟ ติดเชื้อ 18 ราย

ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่ร้านกาแฟ ภายใน บขส. โดยมีผู้ติดเชื้อ 18 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงอีกกว่า 3,000 ราย เนื่องจากมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งหลายรายเป็นผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่ บขส.

Grabfood ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย

กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้าขนาดเล็ก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าที่จ่ายค่าคอมมิชชันเกินกว่า 25 เปอร์เซนต์' เป็นเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน และสนับสนุนโค้ดส่วนลด 50 บาทให้ผู้ใช้บริการเมื่อมียอดสั่งครบ 200 บาทจำนวน 10,000 โค้ดต่อวัน

ปธน.สหรัฐฯ สั่งตรวจสอบต้นตอของโควิด-19 ใหม่

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าต้นตอของการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลุดมาจากห้องแล็บหรือเป็นการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คน ดังนั้น จึงมีคำสั่งให้หน่วยข่าวกรองเร่งตรวจสอบและรายงาน ภายใน 90 วัน ขณะที่สถานทูตจีนประจำสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาประกาศว่า ทางการจีนยินดีให้การสนับสนุนในการตรวจสอบหาต้นตอของโควิด-19 อย่างเต็มที่

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงว่าสหรัฐฯ พยายามที่จะเชื่อมโยงการแพร่ระบาดเข้ากับประเด็นทางการเมือง

ทั้งนี้ การสั่งสืบสวนของรัฐบาลสหรัฐฯ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่สื่อยักษ์ใหญ่ ของสหรัฐฯ วอล สตรีท เจอร์นอล (Wall Street Journal) รายงานข่าวว่า พบนักวิจัย 3 คน จากสถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ก่อนที่ทางการจีนจะยืนยันพบผู้ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบรุนแรง และกลายมาเป็นโควิด นายน์ทีนในเวลาต่อมา

กรมศิลป์ฯ เตรียมจัดบวงสรวงทับหลังหนองหงส์-เขาโล้น 31 พ.ค.นี้

กงสุลใหญ่ไทยฯ จัดส่ง "ทับหลังหนองหงส์-ทับหลังเขาโล้น" ขึ้นเครื่องบินออกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยกรมศิลป์เตรียมจัดพิธีบวงสรวงต้อนรับ 31 พฤษภาคมนี้

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ การรับมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว จากประเทศสหรัฐอเมริกา คืนสู่ประเทศไทย ขึ้นเครื่องบินออกจากท่าอากาศยานนครลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม โดยกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลิส ได้กำกับดูแลการบรรจุหีบห่อ และการขนส่ง ทับหลังทั้ง 2 รายการ น้ำหนักรวมกว่า 1 ตัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะเดินทางกลับสู่มาตุภูมิได้โดยสวัสดิภาพและสง่างาม

โดยทับหลังทั้ง 2 รายการ มีกำหนดขนส่งโดยสายการบินโคเรียนแอร์ เที่ยวบินที่ KE12 ออกจากท่าอากาศยานนครลอสแอนเจลิส ไปถึงกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 28 พฤษภาคม แล้วจะเดินทางต่อมายังประเทศไทย ด้วยเที่ยวบิน KE651 ถึงกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 22 นาฬิกา จากนั้นจะมีพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

สั่งกรมขนส่งฯ ออกระเบียบเรียกรถผ่านแอปฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งกรมการขนส่งทางบก เร่งออกประกาศและระเบียบการให้บริการรถยนต์รับจ้างทางเลือกผ่านแอปพลิเคชัน กำหนดให้ใช้ได้กรกฎาคมนี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ ติดตามความคืบหน้าร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หลังได้รับความเห็นชอบจาก ครม. เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสั่งการให้กรมการขนส่งทางบก จัดทำข้อมูลและกรอบระยะเวลาดำเนินการในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน พร้อมเร่งออกประกาศหรือระเบียบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน เช่น การกำหนดอัตราค่าโดยสาร, หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองระบบ, เครื่องหมาย, ขั้นตอนการจดทะเบียน โดยกำหนดกรอบระยะเวลาออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องทันที ภายหลังกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับภายในเดือนกรกฎาคมนี้

โดยผู้ให้บริการต้องมายื่นขอรับรอง และเมื่อได้รับการรับรองแล้ว จะสามารถขึ้นทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะขับรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมเร่งรัดให้กรมการขนส่งทางบก พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับเป็นทางเลือกให้รถแท็กซี่ใช้แทน GPS ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ ภายในเดือนมิถุนายนนี้