'สมศักดิ์' เผย บอร์ด สปสช.มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน 7 แพ็คเกจจุกๆ พร้อมเห็นชอบขยาย 30 บาท รักษาทุกที่ 31 จว.ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

'สมศักดิ์' เผย บอร์ด สปสช.มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน 7 แพ็คเกจจุกๆ พร้อมเห็นชอบขยาย 30 บาท รักษาทุกที่ 31 จว.ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ย้ำใบส่งตัวเป็นดิจิทัล ชี้ผู้ให้บริการยึกยักเตรียมดำเนินคดี


เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ว่า บอร์ด สปสช.ได้มีการอนุมัติของขวัญปีใหม่เพื่อคนไทยสุขภาพดีทั่วหน้า 7 แพ็คเกจ

ประกอบด้วย  1.สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหลังคลอด จะมีการฝากควรรภ์ คัดกรองดาวน์ซินโดรม วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน 2.เด็กแรกเกิดจนถึง 5 ปี การคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน การคัดกรองโรคทางพันธุกรรม 3.เด็กโตจนถึงวัยรุ่น 6-24 ปี มีการคัดกรองพัฒนาการเด็ก คัดกรองซิฟิลิส แว่นตา วัคซีน HPV  4.ผู้ใหญ่ 24 ถึง 59 ปี เจาะเลือดตรวจน้ำตาล ไขมัน ตรวจไวรัสตับอักเสบบี ซี คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตรวจแมมโมแกรมสำหรับหญิง 40 ปีขี้นไป  5.ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คัดกรองวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง คัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่  

6.ชุดตรวจคัดกรองด้วยตนเอง เช่น มะเร็งปากมดลูก เอชไอวี มะเร็งท่อน้ำดี 7.สายด่วนและสุขภาพจิต นี่คือของขวัญปีใหม่ และวันที่ 20 ธันวา 10.00 น. ที่โรงเรียนวัดเขียนเขต ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จะมีการฉีดวัคซีน 9 สายพันธุ์ให้กับนักเรียนหญิง ป. 5 โดยตนได้เชิญชวนบอร์ดไปดูในพื้นด้วย



นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าา บอร์ดยังได้พิจารณาเห็นชอบข้อเสนอของสปสช.ในเรื่องการป้องกันโรค NCDs เป็นการทำงานควบคู่กับกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งโครงการนี้ต้องผ่านอนุกรรมการชุดที่เกี่ยวข้องเป็นการขับเคลื่อนเริ่มต้นไปด้วยกัน ส่วนเรื่อง 30 บาทรักษาทุก บอร์ดได้เห็นชอบให้มีการขยายพื้นที่ 31 จังหวัดในการทำงานดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

เพื่อขยายครอบคลุมทั่วประเทศตามที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศกำหนด และเห็นชอบในหลักการแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาททุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ของสปสช. ทั้งเป้าหมายและกรอบแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ 10 ประการ รวมทั้งระบบเบิกจ่ายและการเชื่อมข้อมูล


“การดำเนินการเรื่องใบส่งตัว ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน สปสช.ได้ยืนยันว่าใบส่งตัวเป็นดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสาร หรือกระดาษ แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออาจจะมีความไม่เข้าใจอยู่บ้าง ก็จะปรับแนวทางในช่วงการดำเนินการ ถ้าหากผู้ให้บริการหรือผู้ประกอบการยังยึกยักก็จะให้ดำเนินคดี”นายสมศักดิ์กล่าว

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมทัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า กรณีใบส่งตัว โดยเฉพาะในกทม.ได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว 5 ฉบับ ตั้งแต่การดำเนินโยบาย  30 บาทรักษาทุกที่ในกทม. หนึ่งในนั้นคือใบส่งตัวที่ใช้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์และใช้ 1330 เป็นผู้ออกใบส่งตัวสำหรับเรียกเก็บเงิน ในที่ประชุมนายสมศักดิ์ ได้ย้ำไปแล้วว่าเมื่อมีกติกาและกฎหมายแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ใบกระดาษหรือเรียกคนกลับมารับใบส่งตัวอีก ในที่ประชุมยังมีความไม่เข้าใจนายสมศักดิ์ ได้ขอให้ภาคประชาชนที่เสนอเรื่องพาไปดูหน้างาน

ทั้งนี้ตามกฎหมายถ้ามีการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการไปรับบริการถือว่าไม่ถูกต้องตามมาตรา 57 และ มาตรา 59 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งได้เรียนในที่ประชุมว่าเราไม่ได้อยากใช้มาตรการทางกฎหมาย แต่เมื่อ 1 ปีผ่านมาแล้ว และมั่นใจว่าระบบต่างๆเข้าที่เข้าทาง

แต่ยังติดระบบปี 2567 ในบางส่วน ซึ่งได้ทำความเข้าใจไปแล้ว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ให้นโยบายแล้วว่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าอยู่ๆ เราจะดำเนินการตามกฏหมาย แต่อยากขอความร่วมมือกับหน่วยบริการ ซึ่งเราเข้าใจหน่วยบริการ แต่ประชาชนเดือดร้อนและได้รับการร้องเรียนอยู่ตลอดก็ต้องไปช่วยดูแลเพื่อให้เกิดความสมดุลย์ ส่วนเรื่องมะเร็งยังยืนยันว่ารักษาทุกที่ สิทธิก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้มีการลดสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น เรื่องของการฉายรังสี ถ้ามีคิวนานสามารถไปในที่ที่มีบริการได้