สังคม

ลูกสุดทน! แม่หลงเชื่อ เข้าลัทธิประหลาดพูดคุยเชิงลามก โดนหลอกลงทุนสูญกว่าล้านบาท

โดย panisa_p

23 ต.ค. 2567

358 views

จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ว่า มีกลุ่มที่ตั้งตนเป็นลัทธิประหลาด อยู่ในพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ได้พยายามใช้วิธีการในการล่อลวงให้คนหลงเชื่อ นำเงินไปลงทุน และหลงเชื่อด้วยความเต็มใจ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรม คำพูด และบทสวดที่ดูประหลาด เข้าขั้นลามก ทำให้ครอบครัวของผู้ที่เป็นสมาชิกในลัทธิประหลาดนี้ ทนไม่ไหว ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในเรื่องนี้


ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ในเรื่องนี้กับลูกชายของสมาชิกที่อยู่ในลัทธิประหลาด พร้อมทั้งให้ดูข้อความแชต ที่มีลักษณะคำพูดเชิงลามกในการขาย และคลิปเสียงเชิงลามก โดยนายพุฒิเมธได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่แม่เข้าไปปฏิบัติธรรมที่สถานที่ดังกล่าว พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยน เชื่อในศรัทธาของตัวเอง และเจ้าของลัทธิเป็นอย่างมาก ซึ่งจริงๆ เจ้าสำนัก หรือเจ้าของลัทธิ ในอดีต คือ พระ ก เจ้าอาวาสที่พักสงฆ์ ซึ่งโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนจากพฤติกรรมแปลกๆ


หลังจากนั้นจึงถูกเจ้าหน้าที่จับสึก ดำเนินการปิดที่พักสงฆ์ และดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่า ตอนนี้ ได้กลับมาตั้งลัทธิประหลาดอีกครั้ง โดยใช้พื้นที่ส่วนบุคคลของเจ้าตัว ปิดกั้นอาณาเขตชัดเจน คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้ นอกจากสมาชิก ซึ่งในตอนนี้มีกลุ่มลูกศิษย์และสมาชิก ประมาณ 30-40 คน และหนึ่งในนั้นมีแม่ของตนรวมอยู่ด้วย


ก่อนที่ตนจะเข้าไปแจ้งความนั้น สาเหตุมาจากสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของแม่ที่เปลี่ยนไป และมีการชวนญาติพี่น้องเข้าไปร่วมลงทุน ทั้งที่อยู่ในสถานที่ที่มีการปฏิบัติธรรม และไม่รู้เหตุใด ถึงต้องมีการลงทุน เมื่อตนพยายามสอบถามกับแม่ ทำให้ทราบว่า เป็นการลงทุนที่เรียกว่า คริปโต และบอกว่าเป็นเงินไซเบอร์ อีกทั้งยังบอกเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนเงิน 1,000 บาท ได้ทองถึง 30,000 บาท ซึ่งตนก็พยายามห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล โดยแม่ของตนอ้างว่าเจ้าของสำนักบอกให้มาหาคนลงทุน โดยอ้างเรื่องของผลตอบแทน ซึ่งแม่ของตนหลงเชื่อ จนขนาดให้ตนถ่ายโฉนดที่ดินให้ แต่ตนรู้สึกผิดสังเกต จึงไม่ทำตามคำขอ


ซึ่งที่ผ่านมาแม่ของตนได้เสียเงินให้กับลัทธินี้ไปเป็นหลักแสน ปัจจุบันยังไม่มีการได้เงินกลับคืนเลย แต่กลับมีท่าทีที่จะพยายามมาหาเงินเพื่อจะลงทุนเพิ่ม ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งลัทธิแห่งนั้นอยู่ เพื่อให้การช่วยเหลือแม่ของตน เพราะตนก็ไม่รู้จะพึ่งพาใครแล้ว


ขณะที่ลูกชายของหนึ่งในสมาชิกลิทธิประหลาดนี้เช่นกัน ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แม่กลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 เดือน หลังจากอดีตที่พักสงฆ์ได้ถูกสั่งปิด ก่อนที่จะแอบนำโฉนดที่นา จำนวน 5 ไร่ ไปขายเป็นจำนวน 1,300,000 บาท แต่ปรากฏว่านำเงินไปลงทุนให้กับลัทธินี้หมด ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในปี 2564 ได้ขายสวนยางพารา จำนวน 9 ไร่ ในราคา 600,000 บาท นำเงินแบ่งให้พ่อของตน เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 400,000 บาท แม่ของตนอ้างว่า จะนำไปใช้ในบั้นปลายชีวิต ก่อนกลับเข้าที่ลัทธิเหมือนเดิม


นอกจากนี้ แม่ของตนยังได้ชักชวนป้าอีก 2 คนไปร่วมลงทุน รวมกันเป็นเงินอีก 500,000 บาท ซึ่งจากเรื่องราวและพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจกับแม่ของตนเป็นอย่างมาก ว่าจะถูกหลอกลวงหรือไม่ ซึ่งตนอยากให้ใครก็ได้ช่วยกันจัดการในเรื่องนี้ก่อนที่จะเสียทุกอย่างไป เพราะทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของแม่หมด และหวั่นว่าจะไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย แม้กระทั่งที่นอน

คุณอาจสนใจ

Related News