เสื่อม! พระพาเมีย-ลูกมาอยู่กินในวัด ทั้งเสพยา ตั้งวงกินเหล้า บอกไม่ผิดศีล แค่โลกติเตียน

วันที่ 21 ต.ค.67 พ.ต.อ มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผู้กำกับ สภ.ละหานทราย ร่วมกับนายคมกฤช พลมาก ปลัด อาวุโส อ.ละหารทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย บุกค้นวัดปากช่อง ต.หนองแวง อ.ละหานทราย

หลังมีชาวบ้านนำคลิปการเสพยาและดื่มเหล้าของพระภายในวัดหลายรูปไปร้องให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพราะชาวบ้านทนกับพฤติกรรมนี้มานานแต่ไม่เคยมีหลักฐานไปร้องเรียน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดโทรศัพท์เอามารวมกัน พร้อมกับให้พระทั้ง 13 รูปภายในวัดมารวมตัวกันที่ศาลาและทำการตรวจปัสสาวะ ปรากฏว่าพบฉี่ม่วง รวม 5 รูป ส่วนพระอีกรูปสารภาพว่าดื่มเหล้าเป็นประจำ

พระ อายุ 35 ปี ออกมายอมรับว่าเสพยาจริง ซื้อยาบ้ามาจากวัยรุ่นในหมู่บ้าน ราคาแล้วแต่จะให้ เฉลี่ยเม็ดละ 50-60 บาท โดยจะเสพครั้งละ 1-2 เม็ดเท่านั้น สาเหตุที่เสพเพราะมีคนชักชวนมาก่อนประกอบกับว่าง ไม่มีอะไรทำ จึงเสพยาคลายเครียด

ขณะหลวงตา อายุ 56 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดปากช่อง เล่าว่าตนไม่ได้เสพยา แต่ยอมรับว่าดื่มเหล้าขาวเป็นประจำ เพราะเป็นการแก้โรคภัยไข้เจ็บ ส่วนเรื่องลูกเมียยอมรับเช่นเดียวกันว่าเอามาอยู่ภายในวัด เพราะเขาไม่มีที่อยู่ จึงขออนุญาตเจ้าอาวาสให้มาอยู่ชั่วคราว

ขณะที่พระ อายุ 50 ปี หนึ่งใน 5 รูปที่ตรวจพบฉี่ม่วง สารภาพว่าเสพยาบ้าจริง ส่วนตัวคิดว่าการเสพยาบ้าก็เหมือนการสูบบุหรี่ ไม่ผิดศีล แค่โลกติเตียนเท่านั้น ยืนยันการเสพยาบ้าในคราบพระไม่ผิด ถ้าจะให้สึกก็สึก

ด้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 กล่าวว่า ชาวบ้านรู้ข่าวมานานว่าพระในวัดปากช่อง ทั้งเสพยาและดื่มเหล้าแต่ไม่มีหลักฐาน ได้แต่เอือมระอาจนไม่มีใครอยากไปทำบุญที่วัด แต่เพราะเป็นเมืองพุทธ จำเป็นต้องไปวัดหรือตักบาตรตามประเพณี

นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านรวมถึงคนเร่ร่อนทั้งหญิงและชายเข้าไปในวัดมั่วกันไปหมด หลายครั้งมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเองภายในวัด ชาวบ้านได้แต่ดูห่างๆ เพราะไม่มีหลักฐาน จนกระทั่งมีคนแอบถ่ายภาพจึงพากันไปร้องเรียนดังกล่าว ส่วนกรณีที่พระเอาภรรยาและลูกไปอยู่ในวัดนั้นเป็นเรื่องจริง อยู่นานแล้วจนถึงปัจจุบันยังใช้ชีวิตอยู่เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ทั้งนี้หลังการตรวจปัสสาวะ เจ้าหน้าที่นำพระทั้งหมดที่ตรวจพบฉี่ม่วงไปสึกทั้งหมด