สังคม
ปคม.จับแก๊งต่างด้าวร่วมคนไทย สร้างกลุ่ม 18+ ลอบขายเซ็กซ์ทอย ทำเป็นขบวนการเงินสะพัดหลายล้าน
โดย paweena_c
11 ต.ค. 2567
74 views
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคม. ทลายแก๊งต่างด้าวร่วมกับคนไทย สร้างกลุ่มลับ 18+ ลักลอบขายเซ็กซ์ทอย พบทำเป็นขบวนการ มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบขายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกโดยผิดกฎหมาย ได้ทั้งหมด จำนวน 9 ราย ตรวจพบอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยผิดกฎหมาย รวม 2,580 ชิ้น และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 66 เครื่อง
โดยวางแผนเข้าตรวจค้น จำนวน 5 เป้าหมาย รายละเอียด ดังนี้ เป้าหมายที่ 1 บ้านพักใน ซ.โพธิ์แก้ว ถ.สุขาภิบาล 1 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร จับกุม ผู้ต้องหา ได้จำนวน 2 คน
1.น.ส.สุชาดาฯ สัญชาติไทย อายุ 26 ปี
2.นายอานนท์ฯ สัญชาติไทย อายุ 25 ปี
พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย จำนวน 2,127 ชิ้น
ดำเนินคดีในข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียงแถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว, นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
เป้าหมายที่ 2 บ้านพักใน ซ.เพชรเกษม 48 แยก 22 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานครจับกุม ผู้ต้องหา ได้จำนวน 2 คน
1.MISS DOKKEO DOUANG สัญชาติลาว อายุ 32 ปี
2.นายมงคลวิทูร สัญชาติไทย อายุ 40 ปี
พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง
ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ”
เป้าหมายที่ 3 ห้องพักในคอนโด บางแวก 63 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จับกุม ผู้ต้องหา ได้จำนวน 1 คน
1. MR.NIKSANH อายุ 30 ปี สัญชาติลาว
พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 424 ชิ้น
เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไป นอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น และ เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
เป้าหมายที่ 4 ห้องพักในคอนโด ถ.เพชรเกษม ต.ห้วยจรเข้ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม จับกุม ผู้ต้องหา ได้จำนวน 1 คน
1.นายชัยวัฒน์ เฉลิมสินธ์ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย
พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย จำนวน 29 ชิ้น และยาปลุกเซ็กซ์ จำนวน 23 รายการ
เพื่อดำเนินคดีข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสิ่งอื่นใดอันลามก และ ขายยา ที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา”
เป้าหมายที่ 5 บ้านพักย่าน ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จับกุม ผู้ต้องหา ได้จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นแอดมิน Telegram PimThaidai
1.นายสุโขฯ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย
2.นายเอกราชฯ อายุ 29 ปี สัญชาติไทย
3.วุฒิพงศ์ฯ อายุ 25 ปี สัญชาติไทย
พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 58 เครื่อง
เพื่อดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์. ในทางเพศ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น
พฤติการณ์ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก และการแสวงประโยชน์โดยมิชอบจากทางเพศ ซึ่งได้เข้าคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
และพบว่ามักจะถูกกลุ่มขบวนการผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ล่อลวง หลอกลวง ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถ่ายคลิปวิดีโอลามกอนาจาร ลักษณะเปลือยกาย หรือ หลอกล่อให้เด็กและเยาวชน ถ่ายคลิปลามกอนาจารโดยให้มีอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เพื่อให้มีความน่าสนใจ อันเป็นพฤติการณ์ในการยุยง ส่งเสริมเด็กให้ประพฤติตนไม่สมควร หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนหรือเพื่อการอื่นใด
จากนั้น ผู้กระทำความผิดจะให้เงินแก่เด็ก และนำคลิปวิดีโอลามกอนาจารเด็กดังกล่าว นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นการสร้างรอยแผลทางจิตใจให้กับเด็กและเยาวชนที่ถูกกระทำ
ต่อมาเมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้รับการร้องเรียนว่าพบการกระทำความผิดผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ Telegram และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย มีการตั้งกลุ่มลับที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ซึ่งรวมถึงคลิปลามกที่น่าเชื่อว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายคลิป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 90,000 ราย และมีคนต่างด้าวร่วมกระทำความผิดตามกฎหมายด้วย
พฤติการณ์การกระทำความผิด กล่าวคือ ผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นแอดมิน Telegram กลุ่ม PimThaidai จะมีการลงคลิปวิดีโอและภาพโป๊ของผู้หญิงจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงคลิปที่มีลักษณะถูกแอบถ่าย หรือคลิปหลุด โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะชักชวนสมาชิกในกลุ่มให้เข้ามาติดตามจำนวนมาก จากนั้นก็มีการแอบแฝงลักลอบจำหน่ายสินค้าสิ่งเทียมอวัยวะเพศทั้งผู้หญิงผู้ชาย (Sextoy), ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศหรือยาปลุกเซ็กซ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิด มีพฤติการณ์ในการประกาศโฆษณาหรือไขข่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า แจกจ่าย แสดงอวดแก่ประชาชน ในสิ่งที่เป็นวัตถุหรือสิ่งของลามก ในลักษณะของเซ็กซ์ทอย หรืออุปกรณ์ของเล่นที่ใช้ในการเพิ่มความสุขทางเพศ หรือใช้ในการผ่อนคลายทางอารมณ์ เพื่อให้มีความรู้สึกคล้ายกับขณะร่วมเพศ หรือใช้กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ โดยจะมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามวิธีการใช้งาน เช่น ไวเบรเตอร์ (Vibrator) , ดิลโด (Dildo) และตุ๊กตายาง (Sex Doll)
จึงได้นำหมายค้นของศาล เข้าทำการตรวจค้น ในเป้าหมายที่เชื่อว่ามีการกระทำความผิด จำนวน 5 เป้าหมาย จากการตรวจค้น พบของกลางซึ่งเป็นอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,127 ชิ้น และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการประกาศโฆษณาขายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพรับว่า ได้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และ Telegram กลุ่มโซเชียลสนทนากลุ่มลับ เพื่อประกาศโฆษณาขายสินค้าสิ่งของวัตถุอันลามก โดยขายมาต่อเนื่องกว่า 2 ปี มีลูกค้ามาติดต่อซื้อขายจำนวนหลายราย มีรายได้เดือนละประมาณ 1-2 แสนบาท และมีเงินหมุนเวียนมากกว่าหลายล้านบาท นอกจากนั้น ในรายของ MISS DOKKEO และ MR.NIKSANH สัญชาติลาว ซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาว ได้มีการลักลอบขายสินค้าอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย โดยเป็นการทำงานที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้จับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. ให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน Sextoy ยังคงเป็นวัตถุลามกอนาจารที่ผิดกฎหมาย โดยเป็นสินค้าที่ไม่สามารถครอบครองหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายได้ และไม่สามารถนำเข้ามาในราชอาณาจักรได้ และพบว่ามีการลักลอบขายสินค้าประเภทนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการลักลอบขายในแหล่งขายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หลบเลี่ยงการตรวจจากเจ้าหน้าที่ เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม
จากการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และความผิดที่เกี่ยวกับเพศที่ผ่านมาของ กก.1 บก.ปคม. พบว่าในคดีค้ามนุษย์รูปแบบการผลิตหรือเผยแพร่สื่อคลิปลามกอนาจารเด็กที่ พบว่ามีการใช้อุปกรณ์ Sextoy เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นหรือเร้าอารมณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการแพร่หลายที่เหยื่อซึ่งเป็นเด็กมักถูกล่อลวง ชักจูงจากผู้กระทำความผิดเพื่อนำไปสร้าง content คลิปลามกอนาจารเด็ก เป็นการใช้เด็กและเยาวชนเป็นเครื่องมือ ในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้ามนุษย์
ตำรวจสอบสวนกลาง ขอประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน หรือเด็ก อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่มีการกระทำหรือความคิดอันฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามพฤติการณ์ข้างต้น กรณีที่หากพบว่าบุตรหลาน ถูกหลอกลวงถูกกระทำจนเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เช่น มีคลิบวิดีโอลามกอนาจาร ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือและคุ้มครองตามกฎหมายมายัง บก.ปคม. หรือหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองตามกฎหมายอื่น ๆ ได้