กินดิบเป็นเหตุ ‘โคราช’ ไข้หูดับ ทำป่วย 89 ราย ตาย 6

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้หูดับในเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 6 กันยายน 2567 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับในพื้นที่แล้วจำนวน 149 ราย และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย แยกเป็นรายจังหวัดพบว่า นครราชสีมา มีผู้ป่วย 89 ราย เสียชีวิต 6 ราย ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 31 ราย เสียชีวิต 4 ราย บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 1 ราย และสุรินทร์ มีผู้ป่วย 16 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยกลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 55-64 ปี และกลุ่มอายุ 45-54 ปี ตามลำดับ

โรคไข้หูดับ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และเลือดของหมูที่กำลังป่วย สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ จากการบริโภคเนื้อ และเลือดหมูที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ และจากการสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค โดยเชื้อจะเข้าทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือการสัมผัสเลือดของหมูที่กำลังป่วย ซึ่งหลังจากได้รับเชื้อ 1-14 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง สูญเสียการได้ยิน ในรายที่เป็นรุนแรงอาจเสียชีวิตได้

ซึ่งช่วงนี้มักพบผู้ป่วย และเสียชีวิตจากโรคไข้หูดับเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการดื่มสุราร่วมกับกินหมูดิบ ก้อยดิบ ลาบเลือดดิบ หรือแหนมหมูดิบ ซึ่งเสี่ยงทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส นอกจากนี้ผู้ปรุงอาหารที่มีบาดแผลแล้วไปสัมผัสเนื้อหมูหรือเลือดหมูดิบๆ ที่มีเชื้อ ก็เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้เช่นกัน