ชาวบ้านร้องควรหรือไม่ พระยืนประจำหน้าร้าน ขายเซ็ตบิณฑบาต-กรวดน้ำครบวงจร ไม่ต้องเดินหาญาติโยมเลยสักก้าว

ชาวบ้านร้องสื่อ เหมาะสมหรือไม่ พระสงฆ์ยืนรับบิณฑบาตประจำอยู่หน้าร้านขายดอกไม้และอาหาร พร้อมจัดแก้วน้ำเพื่อรับพรหลังจากใส่บาตร  ไม่ต้องเดินหาญาติโยมเลยสักก้าว หวั่นเป็นผลประโยชน์ระหว่างพระกับร้านขายของ



หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนในกรณีดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบตามที่ชาวบ้านได้แจ้งมาถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ ซึ่งมี จำนวน 3 รูป ที่จะยืนประจำทุกช่วงเช้า โดยจุดแรก คือบริเวณหน้า รพ.เอกชนแห่งหนึ่งกลางเมืองชุมพร และได้พบพระสงฆ์ จำนวน 1 รูป ยืนอยู่บนถนน โดยด้านหลังบนฟุตบาท จะมีร้านจำหน่ายขายของชุดทำบุญใส่บาตร ประกอบด้วย ดอกไม้ อาหารชุดทั้งคาวหวาน ซึ่งวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะยาว จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะขนาดเล็ก ซึ่งมีแก้วน้ำ และน้ำ จำนวนหลายชุด เพื่อให้กับผู้ที่มาซื้อของใส่บาตร ได้กรวดน้ำรับพร จากพระสงฆ์รูปดังกล่าวอีกด้วย



ผู้สื่อข่าวได้เฝ้าสังเกตตั้งแต่พระรูปดังกล่าว ได้ลงมาจากรถยนต์กระบะตอนครึ่งสีบรอนซ์ทอง ซึ่งจอดอยู่ห่างจากร้านขายของไปประมาณ 20 เมตร โดยมีชาย อายุประมาณ 50 ปี เป็นคนขับรถ และคอยจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง โดยหลังจากที่เดินมาพระรูปดังกล่าวจะมายืนประจำ ณ จุดที่ทางร้านได้จัดไว้ให้ โดยมีร่มขนาดใหญ่ มาปักกางไว้ หากมีฝนตกลงมา ซึ่งในวันที่ผู้สื่อข่าวได้ไปสังเกตก็มีฝนตกลงมาต่อเนื่องประปราย และมีชาวบ้าน จะทยอยเดินทางมา ทั้งขับรถยนต์และ รถ จยย.เพื่อมาทำบุญ โดยจะซื้อสิ่งของที่ร้านและเดินมาเพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ทำบุญใส่บาตร และกรวดน้ำรับพร ซึ่งหลังจากแต่ละรายที่ใส่บาตรแล้ว ทางชายซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ จะคอยเอาสิ่งของที่ผู้มาทำบุญใส่บาตรออกพร้อมคัดแยก ดอกไม้และอาหาร ใส่ตะกร้า โดยทำเช่นนี้ตลอดกว่า 2 ชั่วโมง โดยพระรูปดังกล่าวไม่ได้เดินไปไหนเลยสักก้าว



นอกจากนี้ ณ จุดบริเวณหน้า รพ.ยังพบพระสงฆ์อีกรูป จะยืนปักหลักอยู่ด้านหลังของร้ายขายสิ่งของใส่บาตร แต่พระรูปนี้ จะแวะเวียนมาเฉพาะขากลับจากเดินบาตร ไปถึงหน้าตลาดสดหมอพนัส โดยจะยืนเกือบ 1 ชั่วโมง จนกระทั่ง เวลาประมณ 08.00 น. พระทั้งสองรูป ก็จะกลับวัด โดยพระรูปหลังจะเดินกลับวัด ซึ่งห่างไปเพียง 300 เมตร ก็ถึงวัดแล้ว ส่วนพระสงฆ์รูปแรกที่ยืนประจำที่ร้าน ก็จะเดินไปขึ้นรถก่อนขับออกไป มีเพียงสิ่งของเพียงเล็กน้อย เอากลับไป ส่วนสิ่งของต่าง ๆ ที่ผู้มาทำบุญได้ซื้อจากร้านใส่บาตร ยังถูกทิ้งวางไว้ให้กับทางร้าน บนโต๊ะขายสิ่งของ



ในขณะที่อีกจุดบริเวณหน้าสำนักงานป่าไม้ ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านแจ้ง ห่างจาก จุด หน้า รพ.เอกชน เพียง 150 เมตร ก็พบว่ามีพระสงฆ์ จำนวน 1 รูป ยืนประจำอยู่ในเต็นท์ ซึ่งทางร้านได้จัดตั้งไว้ให้เป็นอย่างดี โดยพฤติกรรมของจุดนี้ ไม่แตกต่างกับบริเวณหน้า รพ.เอกชนแต่อย่างใด เพียงแต่จุดนี้ ไม่คึกคัก มีผู้มาซื้อสิ่งของอาหารเพื่อทำบุญใส่บาตร เล็กน้อยเท่านั้น



ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังจากที่ได้สังเกตพฤติกรรมมา 1 วัน เพื่อความชัดเจน จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ซึ่งก็พบว่า วันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงไป และมาทราบว่า ทางร้านและพระ รู้ว่า มีชาวบ้านร้องเรียนและมีผู้สื่อข่าว ลงมาตรวจสอบ โดยสังเกตว่า วันนี้ ณ จุด รพ.เอกชน ทางร้านได้เก็บร่มที่ปักไว้บนถนนออกไป ทั้งที่วันนี้ฝนก็ยังตกเหมือนเมื่อวาน ส่วนพระซึ่งเป็นรูปเดิม ได้เดินไปมาอยู่หน้าอาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับร้านขายสิ่งของทำบุญใส่บาตร และจะมีคนขับรถยนต์ จะคอยจัดการให้ผู้จะมาทำบุญเดินไปหาพระ โดยมีแก้วน้ำสำหรับกรวดน้ำพาไปให้ กระทั่งนิมนต์พระให้เดินมาให้ผู้จะทำบุญได้ใส่บาตร ตรงร้านขายสิ่งของอีกด้วย และอีกเช่นกัน ทั้งสิ่งของที่ใส่บาตร คนขับคนนี้ก็จะนำออกมาจากบาตร ไปใส่ในตะกร้า คัดแยกและให้กับทางร้าน ก่อนจะขึ้นรถกลับวัดตัวเปล่า



ในขณะที่พระอีกรูป ก็ต้องมายืนรอคนใส่บาตรอีกฝั่งถนน ส่วนอีกรูปหน้าสำนักงานป่าไม้ หากไม่มีคนใส่บาตร ก็จะเดินเตร่อยู่ใกล้ จนมีคนแล้วจึงเดินมาในเต็นท์ เพื่อให้ผู้มาทำบุญใส่บาตร



ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายรัฐวิชญ์ ฉิมพลี พุทธศาสนาจังหวัดชุมพร เพื่อสอบถามถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่ และพฤติกรรมดังกล่าว ถูกหลักศาสนาด้านการโปรดสัตว์หรือไม่ อีกทั้งกรณีดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์และแบ่งผลประโยชน์ระหว่างร้านขายของทำบุญกับพระสงฆ์ ที่จะได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์หรือประโยชน์ด้านอื่นหรือไม่อย่างไร



ด้านนายรัฐวิชญ์ พาฉิมพลี พุทธศาสนาจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวทางสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดชุมพรจะได้ประสานเจ้าคณะผู้ปกครองในเขตพื้นที่ได้ร่วมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในแต่เช้าในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 6 ก.ย.) แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นเราก็ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนลักษณะเดียวกันแต่ว่าสถานที่จุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นคนละจุดกัน ดังนั้นตอนนี้ก็เรื่องที่ ได้รับเรื่องร้องเรียนครั้งแรกนั้นเราก็ดำเนินการเรียบร้อยแล้วและไม่ทำซ้ำ ส่วนกรณีตามที่เป็นข่าวนั้นทางเราจะได้ประธานคณะสงฆ์โดยด่วนโดยพรุ่งนี้เช้าจะได้ร่วมลงพื้นที่กับคณะสงฆ์เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป



โดยปกติพระสงฆ์จะไม่นั่งรับบิณฑบาตอยู่กับที่เพื่อไม่ให้ถูกติฉินนินทา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรด้านทางวินัยนั้น คงให้คณะสงฆ์พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ถามว่าหากมีการหมุนเวียนอาหารสิ่งของที่ซื้อขายใส่บาตรไปแล้วกลับมาขายใหม่ทำได้หรือไม่



นายรัฐวิชญ์ เผยอีกว่า การกระทำดังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะคนที่ทำบุญมีความตั้งใจทำบุญถวายพระสงฆ์ไปใช้ประโยชน์ยังชีพ เมื่อมีการจำหน่ายเพื่อธุรกิจนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง หลังจากนี้ทางสำนักพุทธประสานคณะพระผู้ปกครองในพื้นที่ทำการตรวจสอบดำเนินการตามพระธรรมวินัย ว่าพระคุณเจ้านั้นสังกัดวัดใด อย่างไร เพื่อให้เจ้าอาวาสตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า กล่าวตักเตือน หรือพิจารณาเห็นตามสมควรแก่เหตุที่เกิดขึ้น



ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับในกรณีนี้ เคยเกิดอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเป็นข่าว ก็จะเงียบหายไป แต่พอเรื่องเงียบ ก็จะมีพระสงฆ์ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า เป็นพระสงฆ์จากจังหวัดอื่นที่จะมาขอจำพรรษาตามวัดต่าง ๆ ก็จะออกมาแสวงหาผลประโยชน์กับร้านขายอาหารและสิ่งของทำบุญใส่บาตร จนทำให้พระสงฆ์ในพื้นที่เคยออกมาห้ามปรามหลายต่อหลายครั้งแล้ว และนับวันก็จะมีร้านขายสิ่งของทำบุญใส่บาตรมากขึ้น และจะนิมนต์พระมายืนประจำหน้าร้านดังเช่นการร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและคาดน่าจะมีประโยชน์ร่วมกันเหมือนในครั้งนี้