สังคม
แม่พาลูกชายวัย 14 ร้องสื่อ หลังถูกชายวัย 40 เตะหน้า-เอารองเท้าตบปาก ฉุนเด็กจะแจ้งตร.ว่าดูดยา
โดย parichat_p
19 ส.ค. 2567
162 views
แม่พาลูกชายวัย 14 ร้องสื่อ หลังถูกชายวัย 40 เตะเสยหน้าก่อนเอารองเท้าตบปาก เหตุโมโหหลังเด็กขู่จะไปแจ้งตำรวจจับเรื่องดูดยาเสพติด แม่เด็กกลัวคดีไม่คืบ เผยลูกชายไม่กล้าไปโรงเรียนตอนนี้มีอาการหวาดผวา
วันนี้ (19 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก น.ส. วิภารัตน์ อายุ 33 ปี พร้อมนำเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี บุตรชาย โดยนำคลิปภาพหลักฐาน เป็นเหตุการณ์ที่ นายจรัญย์ อายุ 40 ปี มีศักดิ์เป็นลุง ใช้เท้าเตะเข้าไปที่ใบหน้าของลูกชาย พร้อมนำรองเท้าแตะที่ใส่มาตบที่ปากและใบหน้าของลูกชาย ซึ่ง น.ส. วิภารัตน์ กลัวคดีไม่คืบหน้า หลังเดินทางไปแจ้งความแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คู่กรณีของลูกชายก็ยังใช้ชีวิตประจำวันอยู่บ้านตามปกติ ทำให้ลูกชายตนรู้สึกหวาดกลัวจนต้องหนีไปอยู่กับตนที่จังหวัดชลบุรี
น.ส. วิภารัตน์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังเดินทางกลับไปหาลูกชาย ก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่าลูกชาย ถูกนายจรัญย์ ซึ่งเป็นลุงอยู่บ้านใกล้ๆกัน ทำร้ายร่างกาย โดยบ้านของคู่กรณี อยู่บริเวณหลังมัสยิดคลองเจ้า ม.8 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา
ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากก่อนหน้านี้ลูกชายได้เอารถจักรยานยนต์มาทำแล้วได้เบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์เสียงดัง จนทำให้แม่ของนายจรัญย์ เกิดความลำคาญ จึงได้โทรศัพท์มาบอกกับพี่ชาย ซึ่งเป็นตาของเด็กชายเอ ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ให้ห้ามปรามหลานชาย พร้อมขู่ว่าหากยังเบิ้ลรถเสียงดังอีกจะแจ้งตำรวจให้มาจับ แต่ลูกชายของตนได้พูดกับนายไสว ซึ่งเป็นตาไปว่า ถ้าเขาแจ้งมา เราก็แจ้งกลับมาบ้านเขาดูดยาเสพติด ก่อนที่แม่ของนายจรัญย์ จะนำเรื่องนี้ไปบอกลูกชาย
ซึ่งเรื่องนี้หลังตนเองทราบเรื่อง ก็ได้โทรศัพท์มาห้ามปรามลูกชายแล้ว ว่าอย่าทำอีก เพราะข้างบ้านมีคนแก่และผู้พิการอยู่ ซึ่งเรื่องก็เหมือนจะจบ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ นายจรัญย์ เดินทางกลับมาที่บ้าน จึงเดินเข้าไปหาเด็กชายเอ ลูกชายของตน ก่อนจะถามว่าลูกชายตนพูดอะไร และใช้หมัดตบไปที่ลูกชายตน แต่ลูกชายหลบทันจนล้มลงไปนั่ง จากนั้นนายจรัญย์ก็ใช้เท้าเตะเข้าไปที่บริเวณใบหน้าของลูกชาย จนปากแตก ก่อนจะหยิบรองเท้าแตะที่หลุดออกมา ตบเข้าที่ปากและใบหน้าของลูกชาย ก่อนจะมีชาวบ้านและญาติๆ มาช่วยกันห้ามไว้
หลังตนเองเดินทางถึงบ้าน จึงพาลูกชายไปแจ้งความไว้ที่สภ. เมืองฉะเชิงเทรา จนผ่านมาถึงวันนี้ คู่กรณีก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและยังไม่มีตำรวจเรียกคู่กรณีไปโรงพักแต่อย่างใด ส่วนลูกชายตนก็ไม่กล้าไปโรงเรียนและขอไปอยู่กับตนที่จังหวัดชลบุรีชั่วคราว ตอนนี้ตนเองอยากให้เรื่องคดีมีความคืบหน้า เรียกผู้ก่อเหตุมาทำการพูดคุยเพื่อให้ลูกของตนเกิดความสบายใจขึ้นจนสามารถกลับไปเรียนหนังสือได้และกลับไปอยู่ที่บ้านได้ตามปกติ และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง ลุงทำร้ายหลาน ,ลุงเตะหลาน