รวบหนุ่มวัย 20 แอดมินกลุ่มลับ ขายสื่อลามก 90 กลุ่ม อึ้งเจอคลิปโป๊กว่า 1 แสนไฟล์

ตำรวบไซเบอร์ รวบแอดมินกลุ่มเปิดลับดูคลิปโป๊ 90 กลุ่ม พบคลิปลามกกว่า 1 แสนไฟล์ รายได้สูงสุด 70,000 บาท

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2567 กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดพิจิตรที่ 353/2567 เข้าตรวจค้นบ้านที่ถนนปากทาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร พร้อมจับกุมนายปองคุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี

ในฐานความผิด “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ,ครอบครอง และส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ,เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก”

สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ตรวจสอบพบโฆษณาในสื่อโซเชียล มีลักษณะเชิญชวนเข้าร่วมกลุ่มลับที่เผยแพร่ภาพและคลิปลามกอนาจาร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่ม โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ชื่อผู้รับเงินคือ นายปองคุณ (สงวนนามสกุล) หลังโอนเงินแล้ว ทางแอดมินได้ดึงเข้ากลุ่ม จำนวน 6 กลุ่ม พบสื่อลามกอนาจารเด็กทั้งชายและหญิงเป็นจำนวนมาก

ต่อมา พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายปองคุณ ทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่มลับ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นจากศาลและเข้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์

ตรวจสอบพบบัญชีไลน์ที่ใช้เป็นแอดมินกลุ่มลับจำนวน 2 บัญชี โดยมีกลุ่มลับที่เผยแพร่คลิปลามกอนาจาร เด็กและผู้ใหญ่ทั้งเพศชายและหญิง มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 90 กลุ่ม ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังพบโฟลเดอร์เก็บคลิปและภาพลามกอนาจาร มากกว่า 100,000 ไฟล์

จากการสอบสวนนายปองคุณ ให้การยอมรับว่าได้เป็นแอดมิน เปิดกลุ่มลับมานานกว่า 2 ปี โดยผู้ที่สนใจต้องการเข้าชมคลิปลามก จะต้องเสียค่าสมาชิกเข้าชมในราคา 900 บาทต่อการชม 6 กลุ่ม ที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้ามาเป็นสมาชิกจำนวนมาก

มีรายได้ดีเฉลี่ยเดือนละ 20,000 - 30,000 บาท ซึ่งมีบางเดือนเคยมีรายได้มากถึง 70,000 บาท โดยตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี มีรายได้มากราว 800,000 บาท ก่อนความคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิจิตร ดำเนินคดีต่อไป