ตำรวจยอดนักปั่น! ควบจักรยานไล่จับพ่อค้ายาบ้า ยึดของกลางซุกในบ้านกว่า 3 แสนเม็ด

ตำรวจยอดนักปั่น! ควบจักรยานไล่ล่าเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในจังหวัดพิจิตร ยึดของกลางยาบ้ากว่า 300,000 เม็ด ไอซ์ น้ำหนัก 1,913.8 กรัม



วันนี้ (10 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในจังหวัดพิจิตร ได้ใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางค้ายาเสพติด พลตำรวจโท กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 6 สั่งการให้ทำการกวาด ติดตามจับกุม ล่าสุด พลตำรวจตรี ไสว ครุธผาสุข ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 6 จึงมอบมายให้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม สืบสวนสอบสวน จับกุมเพื่อทลายเครือข่ายเสพติดในพื้นที่จังหวัดพิจิตร



พันตำรวจโท เจนรบ เนติรัตนไพบูลย์ สว.กก.สืบสวน 2 พร้อมตำรวจชุดจับกุม จึงได้ทำการขยายผลการสืบสวนสอบสวน เครือข่ายค้า ยาบ้าและไอซ์ รายใหญ่ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ที่ใช้ช่องทางเสนอขายและสั่งการด้วยเฟซบุ๊ก ซึ่งกล้องวงจรปิดพกพาติดตัวที่ใช้บันทึกการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่กำลังจะจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมเครือข่าย ทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร สามารถบันทึกเหตุการณ์ ที่กำลังจะควบคุมตัว นายอนุพันธ์ แสงทอง หนึ่งในผู้ต้องหา ได้พยายามหลบหนี วิ่งหนีออกจากอาคารในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว พันตำรวจโท เจนรบ ที่วิ่งตามมาได้อย่างกระชั้นชิด ได้ขอยืมรถจักรยานของยามโรงพยาบาล ปั่นติดตามไป เพื่อให้ไปทันและผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ไม่ไกล รถจักรยานก็สามารถใช้จับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด



จากนั้น ตำรวจชุดจับกุม กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 6 ได้สอบสวน สืนสวน ขยายผลการจำกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด และสั่งการ ผ่านเฟซบุ๊ก ได้ตัวผู้ต้อองหา 2 คน คือ นายสุขสรรค์ วัฒนา อายุ 22 ปี และ นายอนุพันธ์ แสงทอง อายุ 26 ปี ได้ของกลาง ที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านเช่า หลังหนึ่ง ในเขตพื้นที่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ได้ของกลางเป็นยาบ้า 342,548 เม็ด และไอซ์ น้ำหนัก 1,913.8 กรัม และของกลางเป็นยานพาหนะและสมุดบัญชีธนาคาร ของนายชัยมงคล จันทร์เนียม หรือ กร เป็น ผู้สั่งการผ่านเฟซบุ๊ก วัยรุ่น บ้านบัง หรือ บังดำ



จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งคู่บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ซึ่งจะได้ค่าจ้างจากนายชัยมงคลฯ หรือกร เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ต่อเดือนนายสุขสรรค์ฯ หรือก้อง และนายอนุพันธ์ฯ หรือเอ้ แบ่งกันสองคน และได้รับยาบ้าเป็นค่าจ้าง ผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพว่าพวกตนร่วมกันนำยาบ้าและไอซ์ ตามของกลางดังกล่าวมาซุกซ่อนไว้ ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.67 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้รับการติดต่อจากนายชัยมงคล จันทร์เนียม หรือกร ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก บัญชีชื่อ วัยรุ่น บ้านบัง หรือบังดำ ให้ไปรับยาบ้าที่มีคนนำมาส่งให้บริเวณถนนสาธารณะหมู่ที่ 4 ตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โดยได้มีคนนำรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด จำรุ่นไม่ได้ ที่มียาบ้าจำนวน 250 มัด หรือยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด และไอซ์ จำนวน 2 กิโลกรัม มาจอดทิ้งไว้ข้างทางแล้วให้นำรถยนต์ที่มียาบ้านำไปเก็บซุกซ่อนไว้ในบ้านที่พวกตนเช่าไว้ และได้ขับรถยนต์มาจอดไว้ที่เดิม จากนั้นได้นำยาบ้าและไอซ์ออกมาวางจำหน่ายให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนายชัยมงคลฯ หรือกร



เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายสุขสรรค์ฯ หรือก้อง ผู้ต้องหาที่ 1 นายอนุพันธ์ฯ หรือเอ้ ผู้ต้องหาที่ 2 ทราบว่ามีความผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยต่อประชาชนทั่วไป และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1ยาบ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้ นายสุขสรรค์ วัฒนา หรือก้อง ผู้ต้องหาที่ 1 ทราบว่ามีความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1ยาบ้าไอซ์ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับได้แจ้งสิทธิ์ให้ทราบตามกฎหมาย นายสุขสรรค์ฯ หรือก้อง ผู้ต้องหาที่ 1 นายอนุพันธ์ฯ หรือเอ้ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ทราบรายละเอียดแห่งการกระทำความผิดและเข้าใจข้อกล่าวหาดีแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป