สังคม

โซเชียลโวย ‘หมูย่างเมืองตรัง’ ซื้อครึ่งโลได้ 4 ขีด พาณิชย์บุกตรวจ พบบางรายชั่งน้ำหนักขาดจริง

โดย chutikan_o

6 ส.ค. 2567

141 views

สุดงง! ซื้อครึ่งโล ได้ 4 ขีด โซเชียลโวยหมูย่างเมืองตรังขายริมทาง ชั่งน้ำหนักไม่ครบ พาณิชย์ควงชั่งตวงวัด บุกตรวจสอบทันที หวั่นกระทบชื่อเสียงสินค้า GI พบจะๆ บางรายชั่งน้ำหนักขาดจริง เตือนอย่าทำอีก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดประเด็นในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับหมูย่างเมืองตรัง สินค้า GI (เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง) ของจังหวัดตรัง หลังจากที่มีผู้โพสต์คลิปชั่งพิสูจน์น้ำหนักหมูย่างเมืองตรัง ที่บรรจุในกล่องพลาสติกแบบใสมีฝาปิดมิดชิด และด้านในกล่องรองด้วยกระดาษขาว หรือกระดาษห่อหมูย่างเมืองตรัง พร้อมบรรยายว่า “หมูย่างเมืองตรังกล่องดังกล่าวซื้อมาจากแผงร้านหนึ่ง บนถนนตรัง-พัทลุง ในราคากิโลกรัม 400 บาท และได้ซื้อมาครึ่งกิโลกรัม ราคา 200 บาท แต่เมื่อนำมาชั่งทั้งกล่องปรากฏว่า มีน้ำหนักเพียง 4 ขีด”


นอกจากนั้น เมื่อเทหมูย่างเมืองตรังออกจากกล่องก็พบว่า ภายในรองด้วยกระดาษขาว จำนวน 3 แผ่น น้ำหนักเกือบๆ 1 ขีด ผู้โพสต์กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครจะซื้อหมูย่างเมืองตรังต้องดูดีๆ เพราะอาจถูกกลโกงของแม่ค้าหัวใส หลังจากเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พบว่ามีชาวเน็ตหลายรายเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองที่ว่า เคยมีประสบการณ์เช่นเดียวกัน


ล่าสุด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วยสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 3-6 กระบี่ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายหมูย่างเมืองตรัง ริมถนนตรัง-พัทลุง เพื่อตรวจวัดมาตรฐานเครื่องชั่งและการปิดป้ายแสดงสินค้า โดยพบว่ามี 2 ร้านที่ตาชั่งชำรุด เข็มของตาชั่งหัก 1 ข้าง ใช้งานได้จริงเพียง 1 ข้าง จึงตรวจยึดตาชั่งชำรุดดังกล่าวไปเพื่อทำลาย นอกจากนั้นยังพบพฤติกรรมของของคนขายบางร้านที่ชั่งหมูย่างเมืองตรังไม่เต็มน้ำหนักจริง โดยระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้พบกับลูกค้าชาวตรังคนหนึ่ง มาซื้อหมูย่างเมืองตรัง น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม


ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถาม และขอห่อหมูย่างของลูกค้าคนนั้นมาชั่ง เพื่อตรวจสอบน้ำหนักที่แท้จริง แต่เมื่อนำหมูย่างเมืองตรังทั้งห่อมาชั่งพบว่า มีน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ตักเตือนร้านดังกล่าว และสั่งให้เติมหมูย่างเมืองตรังส่วนที่ขาดหายไปให้กับลูกค้า ตลอดทั้งยังได้ตักเตือนเรื่องคุณภาพของสินค้า กำชับเรื่องการติดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน รวมทั้งสุขอนามัยบริเวณร้านให้สะอาด เนื่องจากหมูย่างเมืองตรังเป็นสินค้า GI เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง


นางสาวหฤทัย หนูชัย อายุ 35 ปี แม่ค้าร้านหมูย่างเมืองตรัง กล่าวว่า เธอขายหมูย่างเมืองตรังริมถนนตรัง-พัทลุง มานานแล้ว และขายดีมาตลอดโดยเฉพาะช่วงเทศกาล พอมีกระแสในโซเชียลดังกล่าว ก็ยอมรับว่าทำให้ยอดขายตกลง ทั้งๆ ที่ร้านของเธอ ตาชั่งจะตรง ไม่โกงลูกค้า แต่หลังมีประเด็นในโซเซียล พฤติกรรมของลูกค้าที่มาซื้อเขาจะดูอย่างละเอียดขึ้น เช่น ดูตาชั่งว่าตรงหรือไม่ ดูว่าร้านสับหมูย่างเมืองตรังแบบไหน เพราะเขากลัวว่าร้านจะแอบเอาหมูย่างเมืองตรังที่ไม่ได้คุณภาพผสมลงไป


ด้าน นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า เนื่องจากหมูย่างเมืองตรัง เป็นสินค้าของฝากที่มีชื่อเสียง เป็นสินค้า GI ฉะนั้นการจำหน่ายหมูย่างเมืองตรัง ต้องเน้นให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม ทั้งเรื่องน้ำหนักตาชั่งที่เที่ยงตรง รวมไปถึงการติดป้ายแสดงราคาให้ชัด ส่วนเรื่องการชั่งการขาย แม่ค้าต้องชั่งน้ำหนักให้ชัดเจน ถ้าลูกค้าซื้อหมูย่าง 1 กิโลกรัม ลูกค้าก็ต้องได้หมูย่างน้ำหนักสุทธิ 1 กิโลกรัมเต็ม ไม่ใช่ชั่งรวมกล่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าหมูย่างเมืองตรัง เกี่ยวกับประเด็นในโซเชียล ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายหมูย่าง เพราะผู้บริโภคก็ต้องชั่งใจก่อนซื้อและชะลอซื้อ ทำให้บรรยากาศการซื้อขายหมูย่างเมืองตรังเงียบลงเล็กน้อย

ขณะที่นายวราชัย ไตรอรุณ หัวหน้าสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 3-6 กระบี่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบร้านหมูย่างเมืองตรังในครั้งนี้ เน้น 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องเครื่องชั่ง และการใช้เครื่องชั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทดสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งพบว่า ทุกร้านมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และบางร้านเครื่องชั่งชำรุด ซึ่งเกิดจากการใช้งาน เช่น บางร้านมีเข็มชี้ค่าน้ำหนักเพียง 1 ด้าน ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วยการตรวจยึดเครื่องชั่งเพื่อส่งทำลาย โดยปกติเครื่องชั่งสปริงจะต้องมีเข็มชี้น้ำหนัก 2 ด้าน ด้านหนึ่งให้ผู้ซื้อมองเห็น ส่วนอีกด้านให้ผู้ขายมองเห็น


แต่อย่างไรก็ตามการชั่งน้ำหนักหมูย่างให้ลูกค้านั้น พบแม่ค้าบางรายได้นำกระดาษมารองถาดตาชั่ง โดยให้เหตุผลเรื่องความสะอาดนั้น สามารถใช้รองได้ตามความจำเป็น อย่ารองมากเกินไป เพราะจะทำให้น้ำหนักของสินค้าได้ไม่ครบถ้วน สำหรับการโกงเครื่องชั่งให้ได้น้ำหนักมากกว่าความเป็นจริง ถือเป็นพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค มีโทษหนัก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ส่วนกรณีไม่ปิดป้ายราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

คุณอาจสนใจ

Related News