รวบแรงงานเมียนมา ขายบุหรี่ไฟฟ้า ในร้านกัญชาดัง เกาะพะงัน เปิดใกล้โรงเรียน แค่ 300 ม.

ตำรวจท่องเที่ยว กวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายบนเกาะพะงันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นำกำลังบุกจับแรงงานชาวเมียนมา ขณะยืนจำหน่ายสินค้า บุหรี่ไฟฟ้า และ จำหน่าย กัญชา ในร้านดังบนเกาะพะงัน โดยร้านดังกล่าวอยู่ใกล้โรงเรียน 300 เมตร เจ้าหน้าที่ยึดของกลางอื้อ สารภาพได้ค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท แจ้ง 4 ข้อหาหนัก



เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศักษ์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 กวดขัน ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ปราบปรามผู้จำหน่าย เน้นการจับกุมบริเวณใกล้สถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญต่างๆ จะต้องไม่มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน



จึงได้นำกำลังบุกเข้าจับ นายจอ เซ เซ อาว (Mr.Kyaw Zay Zay Naung) สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 36 ปี ภายใน ร้าน แห่งหนึ่ง หมู่ 8 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง 1 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape 9,000 Puffs จำนวน 12 ชิ้น 2 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape 7,000 Puffsจำนวน 10 ชิ้น 3 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape 6,000 Puffsจำนวน 9 ชิ้น



4 หัวบุหรี่ไฟฟ้า Lanavape จำนวน 2 ชิ้น 5 หัวบุหรี่ไฟฟ้า Lana Vino Pod จำนวน 50 ชิ้น 6 เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า Lanavape Lana Vino จำนวน 10 ชิ้น 7 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape Trend 6,000 Puffs จำนวน 36 ชิ้น 8 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape Lana Ultra 7,000 Puffs จำนวน 3 ชิ้น 9 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape Lana Pen Plus 9,000 Puffs จำนวน 28 ชิ้น 10 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อ Lanavape Lana Ultra จำนวน 26 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งรวม 124 ชิ้น หัวบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 52 ชิ้น เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า Lanavape Lana Vino จำนวน 10 ชิ้น รวมของกลางทั้งหมด 186 ชั้น



จึงได้ควบคุมตัวนายจอ เซ เซ อาว ชาวเมียนมา พร้อมยึดของกลางทั้งหมด ไปทำการสอบปากคำ ที่หน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน เบื้องต้นจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้มาทำงานที่ร้านดังกล่าว เป็นระยะเวลา 2 เดือน ได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ซึ่งจ่ายเป็นเงินสด และ ตนได้เดินทางเข้าประเทศโดยถือวีซ่านักท่องเที่ยว โดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว 41 วัน แล้ว และ ได้อยู่ในราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมายเรื่อยมา ประกอบกับทำงานที่ร้าน ดังกล่าว โดยมีหน้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาและบุหรี่ไฟฟ้าให้กับนักท่องเที่ยวหรือชาวไทยที่มาใช้บริการ



ทางตำรวจท่องเที่ยวชุดจับกุมจึงได้แจ้ง 4 ข้อหา 1. “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” 2. “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาโดยการอนุญาตสิ้นสุด (41 วัน) 3. “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า "บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า" ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562”



4. “ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรจะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560” พร้อมนำผู้ต้องหา และของกลางทั้งหมด นำตัว ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



สำหรับร้านนี้เป็นร้านจำหน่ายกัญชา มีการนำสติกเกอร์ต่าง ๆ มาปกปิดหน้าร้าน ตั้งอยู่ใกล้กับสามแยกบ้านศรีธนู ในพื้นที่ หมู่ 8 ตำบลเกาะพะงัน ซึ่งได้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ โดยร้านดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียน ประมาณ 300 เมตร โดย พล.ต.ท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท ได้กำชับให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.สทท.5 กก.2 บก.3 กำชับการกระทำผิดเรื่องนี้อย่างจริงจังในเขตพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ห้ามจำหน่ายบุหรีไฟฟ้า ในเขตพื้นที่ใกล้สถานศึกษา ในแหลงท่องเที่ยว หากพบให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่เว้น