ผัว-เมีย เมียนมาทะเลาะกันทุบประตูพัง ข้างห้องเตือน กลับโดนแทงดับ

หนุ่มเมียนมาวัย 29 เมาทะเลาะกับเมีย ทุบประตูห้องพัง สองผัว-เมียเพื่อนร่วมชาติไปตักเตือน กลับไม่พอใจ ตามเพื่อนรุมทำร้าย ใช้อาวุธแทงผัวสาหัส ส่วนเมียถูกแทงตัดขั้วหัวใจดับคาถนน

เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค.2567 พ.ต.ต.พลชัย กมขุนทด สว.(สอบสวน) สภ.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุชาวเมียนมาทำร้ายร่างกายกัน มีผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เหตุเกิดภายในซอยโรจนะกุล 2 หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและแทพย์เวร รพ.บางบ่อ เข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงหนึ่งรายทราบชื่อ นางมิ มิ เอ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนหน้าห้องเช่าชั้นเดียวใน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบบาดแผลถูกของมีคม แทงเข้าที่ลำตัวหลายแห่ง แผ่นหลัง แขน หน้าอกขวาและราวนมด้านซ้าย ทีมกู้ชีพให้การช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนสามีชื่อ นาย SEIN PAN ถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ทีมกู้ชีพเร่งนำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.บางบ่อ

จากการสอบถาม นายวิน เพื่อนบ้านให้สัมภาษณ์ กล่าวว่า คนก่อเหตุชื่อ นายยาซาคุง อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมา คาดว่ามีอาการเมาแล้วทะเลาะกับเมียเสียงดังลั่นอยู่ในห้อง จากนั้น สองผัว-เมีย ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งพักอยู่ในห้องหมายเลข 1 ได้ยินว่าส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนข้างห้อง จึงเข้าไปตักเตือนให้ลดเสียง แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ จึงเดินออกไปตามเพื่อนที่ดื่มสุราด้วยกัน ซึ่งพักอยู่ที่ห้องด้านนอก ชวนกันมาเรียก นาย SEIN PAN ผู้บาดเจ็บออกมาจากห้องและรุมทำร้าย

จากนั้น นาง มิ มิ เอ ภรรยา เห็นว่าสามีถูกรุมทำร้ายจึงเข้าไปห้าม แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุทั้งสองคน หันมาใช้อาวุธมีคม กระหน่ำแทงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตคาถนนในที่เกิดเหตุ ก่อนจะพากันวิ่งหลบหนีไปยังซอยที่อยู่ถัดไป

ส่วนผัวนั่งเฝ้าเมียอยู่ข้าง ๆ ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้านาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ให้ช่วย ผู้ก่อเหตุพักอยู่ในห้องหมายเลข 9 กับเมียและน้องสาวรวมทั้งหมด 3 คน ซึ่งเมียกับน้องสาว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้น

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์และเพื่อนข้างห้อง จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ และจะส่งเรื่องให้ชุดสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมกู้ภัย ได้นำไฟส่องสว่างไปค้นหาตัวผู้ก่อเหตุบริเวณข้างบ้านหลังหนึ่งในซอยถัดไป หลังจากมีชาวบ้านแจ้งเบาะแสว่าได้ยินเสียงมีคนวิ่งหนีเข้าไป โดยจากการเฝ้าสังเกตอยู่ประมาณ 30 นาที ไม่พบตัวและด้านหลังเป็นป่าชายเลนรกทึบ จึงพากันถอนกำลังหยุดค้นหาก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าของบ้านได้เล่าให้ฟังว่าขณะนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านได้ยินเหมือนเสียงคนวิ่งเข้ามาเหยียบแผ่นไม้หัก เมื่อออกมาดูแต่ไม่พบใคร

ล่าสุดควบคุมตัวได้ 1 คนใกล้ที่เกิดเหตุในช่วงดึก คือ นายยาซาโทน อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมา ส่วนอีกรายเป็นน้องเขยของนายยาซาโทน ทราบชื่อคือ นาย เย ยิน อายุ 27 ปี ฝ่ายสืบสวน สภ.คลองด่าน ตามไปควบคุมตัวได้ในช่วงเช้าของวันนี้ ขณะกำลังจะลงจากรถแท็กซี่ หวังไปกบดานที่บ้านญาติในพื้นที่เขตท่าข้ามซอย14กรุงเทพมหานคร และ นำตัวกลับมาสอบสวน ที่ สภ. คลองด่าน

จากการสอบถามผู้ก่อเหตุทั้งสองคนผ่านล่ามชาวเมียนมา ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนนั่งดื่มสุรากัน พอเมาได้ที่แยกย้ายกันกลับห้องพัก นายยาซาโทน คนสวมเสื้อแดง ซึ่งเป็นพี่เมีย เมื่อกลับถึงห้อง ได้ทะเลาะกับเมีย อาละวาดทุบประตูหน้าห้องพัง ส่งเสียงดังรบกวน ทำให้นาย SEIN PAN ผู้บาดเจ็บ กับ นาง มิ มิ เอ ภรรยาที่เสียชีวิต ในฐานะเป็นคนดูแลห้องพัก จึงเดินมาที่ห้องหมายเลข 9 เพื่อตักเตือนให้เบาเสียงลง ด้วยความโมโหผู้ก่อเหตุ จึงเดินออกไปตามน้องเขยที่ห้องพักซึ่งอยู่ถัดไป กลับเข้ามาและมีปากเสียงกับสองสามี-ภรรยา และ ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ตัวสามีของผู้เสียชีวิต หยิบอาวุธมีด ออกมาทำร้ายน้องเขยของตน มีการต่อสู้กัน ส่วนนาง มิ มิ เอ ได้หยิบกรรไก เข้าไปทำร้าย แทงเข้าถูกลำตัว ร่างกายของน้องเขยหลายแห่ง นายยาซาโทน คนสวมเสื้อแดง จึงได้เข้าไปช่วยแล้วเกิดการชุลมุนต่อสู้กัน และแย่งกรรไกจากนาง มิ มิ เอ แทงสวนกลับไปหลายครั้ง กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว แล้วแยกย้ายกันหลบหนี

ด้าน พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ. คลองด่าน กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุทั้งสองคน อ้างว่าเกิดจากการโมโหที่ถูกผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เข้ามาดุด่า ทำให้เกิดอารมณ์โมโห จึงตามน้องเขยให้มาช่วย หลังมีปากเสียงกันอย่างหนัก แล้วลงมือทำร้ายร่างกายกัน กระทั่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่มีการวางแผนไว้ก่อนแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัญหาเรื่องค้างจ่ายค่าน้ำค่าไฟด้วย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย ส่วนประเด็นอื่น คงต้องรอให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป