อุทาหรณ์! จยย.ไม่มีพรบ. ขับเร็วแรงทะลุท้ายเก๋ง เจ็บหนักเสี่ยงพิการ ซ้ำต้องจ่ายชดใช้เองทั้งหมด

กล้องท้ายรถจับภาพ รถจักรยานยนต์ขับเร็วแรง ชนท้ายรถเก๋งSUV เศร้าพรบ.ไม่มี ต้องชดใช้ค่าเสียหายเองทั้งหมด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 กรกฏาคม 2567 ที่ชุมชนบ้านพลง เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีคลิปกล้องหลังรถเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยในการใช้รถใช้ถนนอย่าลืมต่อ พรบ.

จากคลิปกล้องท้ายรถเก๋ง ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิว-เอ็กซ์ สีขาว จะเห็น รถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำ ขับซ้อน 2 ตามท้ายมาด้วยความเร็วก่อนจะแซงขวาโดยไม่ดูสัญญาณไฟเลี้ยวของรถคันหน้าจึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง ศรีษะคนขับ รถ จยย.กระแทกกระจกหลังจนแตกก่อนจะกระเด็นลงไปกองอยู่ที่พื้นถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนซ้อนบาดเจ็บเล็กน้อย

นางจันทิรา เอ็นดู อายุ 50 ปี ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า กล้องวงจรปิดของร้านจับภาพได้ราง ๆ เหตุเกิดในวันที่ 18 กรกฎาคมเวลา 08.23 น. ซึ่งจะมองเห็นด้านบนมุมกล้องรถเก๋งกำลังจะเลี้ยวขวาแล้วมีรถจักรยานยนต์ตามมาชนท้าย ซึ่งในขณะนั้นตนกำลังกินข้าวพอดี และก็ได้ยินเสียงรถชนดังตุ้มจึงหันไปดู จากนั้นก็เห็นรถจักรยานยนต์ หัวคนขับกระแทกกระจกของรถยนต์และกระเด็น ลงกองอยู่กับพื้น ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ตนยังหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปและส่งให้ลูกหลานดูว่าอย่าขับรถเร็ว

จะคลิปคนขับรถจักรยานยนต์นั้นใส่เสื้อสีม่วงกางเกงดำคาอยู่ที่ตัวรถ และคนซ้อนใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีม่วงขายาว เป็นผู้ชายทั้งคู่ ส่วนผู้หญิงเสื้อน้ำเงินนั้นเขาเดินอยู่ข้างทางเห็นเหตุการณ์จึงลงไปช่วย และเมื่อตนมาเปิดดูกล้องวงจรปิดที่ร้านเห็นได้ชัดเลยว่าจักรยานยนต์นั้นเค้าขับมาเร็วและน่าจะเบรคไม่อยู่และเมื่อวานคนซ้อนและแม่ของคนที่ขับรถจยย.ก็มาขอดูกล้องวงจรปิดที่บ้านตน ยังเล่าให้ฟังว่ารถจักรยานยนต์นั้นไม่มีพรบ.และลูกชายก็เจ็บหนัก ฟันหน้าหักกระดูกซี่โครงหัก 5 ซี่

ส่วนเรื่องที่มีการเล่ากันฟังว่าไข่แตก (ลูกอัณฑะ) ตนนั้นไม่แน่ใจเพราะญาติเขายังไม่ได้พูดถึง ซึ่งหมอประเมินว่าอาจจะเดินไม่ได้อีกต่อไป เขาก็อยากขอความเห็นใจจากทางรถยนต์ว่าให้ช่วยค่ารักษา แต่รถยนต์เขามีประกันและทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตนก็อยากแนะนำให้ทุกคนนั้นเห็นความสำคัญของพรบ. เพราะอย่างน้อยหากเกิดอุบัติเหตุก็ยังคุ้มครองเรา และในเหตุการณ์นี้ตนก็สงสารคนเจ็บที่ไม่มีพรบ.

อย่างไรก็ตามนี้ก็ถือเป็นอุทาหรณ์ของการขับรถเร็วบนท้องถนนและที่สำคัญพรบ.ที่กฎหมายกำหนดว่ารถทุกคันจะต้องทำพรบ.เพราะเนื่องจากเคสนี้ค่ารักษา 30,000 แรก ผู้บาดเจ็บจะต้องนำเงินมาจ่ายให้เต็มจำนวนก่อนและหลังจากนั้นถึงจะใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาต่อไปได้ ซึ่งถ้าหากมีพรบ.ก็ไม่ต้องกังวลในส่วนของการรักษาพยาบาลในส่วนแรก เคสนี้เจ็บทั้งตัวแถมอาจจะต้องพิการอีกต้องหาเงินรักษาตัวเองและซ่อมรถให้เขาด้วย แถมโดนเจ้าที่ตำรวจสั่งปรับที่ไม่มีพรบ.อีกด้วย

เบื้องต้นเจ้าที่ตำรวจสภ.มาบตาพุด จังหวัดระยอง ชี้รถจักรยานยนต์ เป็นฝ่ายผิดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป