สลด ผัวเมียชาวเกาเหลี เปิดร้านเครื่องสำอาง หาดกะรน ธุรกิจไปไม่รอด ผูกคอดับคู่

สลด สามีภรรยาชาวเกาเหลี เปิดร้านเครื่องสำอาง ย่านหาดกะรน ประสบปัญหาการเงิน ไม่ได้จ่ายค่าเช่า สุดท้ายคิดสั้น ผูกคอดับทั้งคู่



วันนี้ (12 ก.ค. 67) พ.ต.ต.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน สว.(สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพหญิงชายชาวต่างชาติเสียชีวิตอยู่ภายในร้านโคเรียน คอสเมติกส์ (KOREAN COSMETIC) เลขที่ 100/7 ถ.กะตะ ต.กะรน อ.เมืองโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรนนำกำลังชุดสืบสวน-พฐ.ภูเก็ตและแพทย์ รพ.วชิระภูเก็ต ตลอดจนมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตไปตรวจสอบทีเกิดเหตุ



โดยที่เกิดเหตุเป็นร้านขายเครื่องสำอางค์จากต่างประเทศขนาด 1 คูหา 2 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนสายดังกล่าว ประตูหน้าร้านปิดล๊อคจากด้านใน เจ้าของอาคารที่ให้ร้านดังกล่าวเช่าใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากติดต่อกับผู้เช่าที่เป็นชาวเกาหลีใต้ไม่ได้มาหลายวันแล้ว เมื่อเปิดเข้าไปภายในร้าน เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะกลิ่นเน่าฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เมื่อเดินขึ้นไปชั้น 2 พบศพผู้ชายนอนหงายหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีมขึ้นอืด เลือดแห้งกรังนองพื้น ข้างกันพบศพหญิงสาวนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงขาสาวส่วนสีเทา ทั้ง 2 ศพมีสายคล้ายเชือกผูกที่ลำคอกับราวบันไดทางขึ้นชั้น 2 เสียชีวิต ใกล้กันพบเก้าอี้ 2 ตัวล้มอยู่ ตรวจสอบภายในร้านไม่พบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ชันสูตรศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้งที่ รพ.วชิระภูเก็ต



ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายคือ นาง EUN YOUNG LEE อายุ และนาย EUN KI YOUNG สัญชาติเกาหลี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องสำอางค์ดังกล่าว โดยทั้งคู่ได้มาเช่าอาคารดังกล่าวเพื่อขายเครื่องสำอางค์นำเข้าจากต่างประเทศมาได้ราว 1 ปี แต่เมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเริ่มประสบปัญหาการเงิน ไม่ได้จ่ายค่าเช่า และร้านไม่ได้เปิดขายมา 2-3 วันแล้ว ผู้เช่าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ จนกระทั่งพบกลายเป็นศพทั้ง 2 คนแล้ว อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ประจำ จ.ภูเก็ตเพื่อแจ้งญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป สำหรับสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าทั้งคู่อาจประสบปัญหาทางธุรกิจ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว