สังคม

รถเฉี่ยวกลางถนน ฉุนคู่กรณีก้มดูมือถือ คว้าเหล็กทุบกระจก พาเพื่อนล้อมรถ

โดย thichaphat_d

3 ก.ค. 2567

235 views

หวิดปะทะเดือด  รถเฉี่ยวกลางถนนไม่พอใจ คู่กรณีเล่นโทรศัพท์ ลากเหล็กขันน็อตทุบรถคู่กรณี พร้อมพวกกว่า 10 คนล้อมรถ

วันที่ 2 ก.ค.67 เวลา 18.00 น.ที่ สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นาย อิทธิพล บุญเรือง อายุ 28 ปี พนักงาน (ผู้เสียหาย) อาชีพ พนักงานขับรถ เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จากกรณี เมื่อเวลา 18.00 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน โดยทางผู้เสียหายขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว บรรทุกโฟม ได้เฉี่ยวชนกับรถสไลด์ของบริษัทแห่งหนึ่งภายในบริเวณ ซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ต่อมาได้มีปากเสียงกันทางนายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คนขับรถสไลด์ ที่ได้ลงจากรถพร้อมกับถือเหล็กขันน็อต และพยายามจะเปิดประตูรถคู่กรณี จากนั้นเดินไปตีไปที่ฝากระโปรงรถด้านหน้า 1 ครั้ง และขึ้นรถตนเองขับไปจอดที่หน้าอู่รถบริษัทตนเอง จากนั้นรถของผู้เสียหายได้ขับตามมาถึงหน้าอู่รถ และจอดเพราะถูกขวางเอาไว้

ต่อมานายสมชายได้นำเหล็กขันน็อต ออกมาตีกระจกรถของผู้เสียหายทั้งสองข้าง จนแตกและหลุดออกไป จากนั้นก็มีพวกของนายสมชายกรูกันออกมากว่า10 คน ล้อมรถผู้เสียหายไว้ และพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่สามารถเปิดได้ก่อนจะแยกย้ายกันกลับเข้าไปในอู่ซ่อมรถ

นายอิทธิพล (สงวนนามสกุล)  อายุ 28 ปี พนักงานขับรถ (ผู้เสียหาย) เล่าว่า ตนขับรถซึ่งเป็นรถของบริษัทกำลังจะกลับบริษัทเพื่อนำรถไปเก็บตรงจุดเกิดเหตุตนขับมาเลนซ้าย ทางคู่กรณีขับมาเลนขวา เป็นลักษณะขับตีคู่กันมา แต่โทรศัพท์ของตนดังขึ้น จึงก้มลงไปมองโทรศัพท์ จังหวะนั้นรถของคู่กรณีได้เปลี่ยนเลน จะเข้ามาเลนซ้ายและกระจกฝั่งซ้ายของคู่กรณี เฉี่ยวกับบริเวณผ้าใบคลุมหลังคารถของตนแค่นิดเดียวเท่านั้น  ตนและคู่กรณีจึงจอดรถ แต่ตนไม่ได้ลงจากรถเพราะกลัว เนื่องจากเห็นว่าทางคู่กรณีถือเหล็กลงมาด้วย และพยายามจะปิดประตูรถให้ตนลงไป ตนก็ได้แค่ยกมือขอโทษเขาไป แต่เขาเหมือนจะไม่พอใจ เดินไปหน้ารถและใช้เหล็กตีไปที่ฝากระโปรงรถ 1 ครั้ง จนเป็นรอยบุบและได้กลับขึ้นรถไป

จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยเป็นการขับคร่อมเลนเพื่อไม่ให้ตนแซงได้ และไปจอดต่อที่หน้าอู่ซ่อมรถของคู่กรณี จากนั้นก็เดินลงมาพร้อมกับท่อเหล็กอันเดิมและตีกระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวาจนแตกและหลุดออกไป จากนั้นเพื่อนๆ ของทางคู่กรณีก็เดินออกมาจากอู่ประมาณ 9-10 คน มาล้อมรถตนเอาไว้และพยายามจะเปิดประตูรถ แต่เปิดไม่ได้ จึงเดินกลับเข้าไปตนจึงขับรถออกมา ตอนนั้นขับรถมาคนเดียวก็รู้สึกกลัวมาก ไม่กล้าลงจากรถพยายามขอโทษเขาอยู่ในรถแต่เขาคงไม่ได้ยิน ถ้าหากตนลงไปหรือเขาเปิดประตูรถได้ตนไม่อยากจะคิดว่าจะโดนอะไรบ้าง

ด้านนายสมชาย ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนขับรถมาและเกิดการเฉี่ยวกันขึ้น ตอนแรกเหมือนเขาจะไม่จอด ตนเลยโมโหเลยหยิบเอาเหล็กขันน็อตที่อยู่ในรถลงไป ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรก็พยายามจะไปเรียกให้อีกฝ่ายลงจากรถเพื่อมาคุยกัน แต่เขาไม่ยอมลง ตนเลยโมโหใช้เหล็กตีไปที่ฝากระโปรงรถ 1 ครั้ง จากนั้นเดินกลับขึ้นรถและขับออกไป ต่อมาได้ไปจอดอีกครั้งที่หน้าอู่ซ่อมรถ ซึ่งเป็นบริษัทที่ตนทำงานอยู่และจอดขวางไม่ให้ทางคู่กรณีขับออกไปได้

ตนจึงลงจากรถและหยิบเหล็กขันน็อตอันเดิม ลงไปตีที่ประจกฝั่งซ้ายจนหลุดและกระจกฝั่งขวาจนแตก พอเพื่อนตนที่อยู่ที่อู่ซ่อมรถได้ยิน จึงวิ่งกันออกมาล้อมรถไว้ แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเรียกออกมาแน่นอนและไม่มีใครทำอันตรายคู่กรณี ก่อนเดินกลับเข้าอู่ไป ตนมารู้ทีหลังว่าคู่กรณีมาแจ้งความจึงเดินทางมาที่โรงพักด้วย  ตนยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไปเพราะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบและตอนเกิดเหตุอยากรีบกลับบ้าน เพราะมีงานต้องไปทำต่อ จึงได้ทำเรื่องไม่ดีลงไป ตนก็อยากจะขอโทษและพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด แต่เหมือนทางเจ้าของบริษัท ซึ่งเป็นเจ้าของรถเขาจะไม่ยอม

คุณอาจสนใจ

Related News