อันซีนภาพสีโบราณ พิธีกรรมขอฝนอายุกว่า 2,000 ปี บนเขาทำเนียบ จ.ขอนแก่น

เปิดเส้นทางขึ้นเขาอันซีนภาพเขียนสีโบราณ พิธีกรรมขอฝนอายุกว่า 2,000 ปี บนเขาทำเนียบ ชาวบ้านที่มีพื้นที่ทำไร่อยู่หน้าทางขึ้นเขา พร้อมสละที่ทำเส้นทางผ่านให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นเขาสะดวกมากขึ้น

วันที่ 25 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจแหล่งอันซีนในจังหวัดขอนแก่น เป็นภาพสีโบราณที่บนหน้าผาเขาทำเนียบ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เขาผายาว หรือ เขาผาแต้ม ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของบ้านซำขาม หมู่ 8 ต.ดงลาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ติดกับทางขึ้นเขาทำเนียบ ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีขอฝนหรือพิธีกบในสมัยโบราณ ซึ่งมีแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อายุประมาณกว่า 2,000 ปี ซึ่งภาพเขียนสีแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานกรมศิลปกร สำนักที่ 8 แล้ว โดยเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 8 ให้ข้อมูลว่าเป็นภาพเขียนที่มีความสำคัญทางโบราณคดี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพิธีขอฝน โดยภาพเขียนแสดงลักษณะคนกำลังร่ายรำท่าทางคล้ายกบ และภาพคนตีกลองมโหระทึก เพื่อใช้ในการประกอบพิธี โดยมีคนเข้าร่วมในพิธีหลายคน

ผู้สื่อข่าวเริ่มเดินขึ้นจากตีนเขาไปสู่ช่วงกลางหุบเขาที่ปรากฏภาพเขียนสีโบราณ แสดงพิธีกรรมขอฝนดังกล่าว โดยใช้เวลาในการปีนขึ้นไปประมาณ 30 นาที ระหว่างทางจะมีพืชพันธุ์นานาชนิดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และได้ยินเสียงสัตว์ป่าและแมลงบางชนิด ส่งเสียงรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ป่าไม้ ภูเขา และท้องฟ้าจากมุมสูงได้อีกด้วย

ขณะที่เส้นทางในการเดินขึ้น-ลงเขาทำเนียบแห่งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์เส้นทางให้สามารถเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นแต่ยังได้สัมผัสบรรยายกาศผจญภัยธรรมชาติอย่างแท้จริงอยู่ ซึ่งจะมีเชือกผูกเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ยึดเหนี่ยวไม่ให้ลื่นไถลในจุดที่มีความชัน และเป็นสัญลักษณ์ในการหาเส้นทางที่จะไม่พลัดหลงอีกด้วย

บริเวณที่ปรากฏภาพเขียนสีโบราณนั้น ทางเจ้าหน้าที่นำไม้มากันบริเวณติดหน้าผาเอาไว้ ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใช้มือสัมผัส เนื่องจากอาจจะเกิดความเสียหายต่อภาพเขียนสีโบราณที่ทางกรมศิลปกร สำนักที่ 8 ขึ้นทะเบียนโบราณสถานเอาไว้ เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งโบราณคดีอีกแห่งให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้มาศึกษาภาพเขียนสีแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป

ด้านนายอุไร พิลาวงษ์ อายุ 59 ปี และภรรยา ซึ่งมีที่ทำกินอยู่บริเวณตีนเขา ทำไร่อ้อยหน้าทางขึ้นเขา และอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มาตั้งแต่เกิด เปิดเผยว่า ภาพสีแห่งนี้เห็นตั้งแต่เป็นเด็ก ครั้งแรกที่มีโอกาสขึ้นไปหลังจากได้ยินพ่อแม่และชาวบ้านบอกว่ามีภาพเขียนสีอยู่ข้างบน ก็พบเห็นแล้ว โดยก่อนหน้านี้ภาพจะชัดเป็นสีสวยงามกว่านี้ แต่เนื่องจากมีไฟป่าทำให้เกิดความเสียหายกับภาพเขียนสีโบราณ เขาและชาวบ้านที่นี่อยากจะอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป แต่ตอนนี้ทราบข่าวว่า พื้นที่ภาพเขียนสีแห่งนี้ห่างจากจุดที่มีการตั้งโรงโม่หิน และมีการระเบิดหินบนเขาที่อู่ใกล้เคียงประมาณ 200 เมตรเท่านั้น ไม่อยากให้เกิดผลกระทบ ส่วนตัวพร้อมจะเสียสละที่ทำไร่อ้อยให้ทางภาครัฐได้ทำถนนสำหรับนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมความสวยงามได้อย่างสะดวกมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมภาพสีดังกล่าวนี้เป็นจำนวนมาก โดยมาเป็นหมู่ขณะทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงที่เจ้าหน้าที่กรมศิลป์มาพบนั้น ได้ประชุมอยู่ที่บ้านตนเอง และคุยกันไว้ว่าต้องอนุรักษ์ไว้ ไม่ให้มีการระเบิดหินทั้งในจุดนี้และใกล้เคียง และทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นภาพพิธีกรรมขอฝนโบราณ ซึ่งตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับที่ 7 ของ อ.สีชมพู อีกด้วย