สังคม
'ตุ๊กตุ๊กมหาภัย' สิ้นท่า ถูก 'สารวัตรแจ๊ะ' ตามรวบ หลังก่อเหตุควงปืนขู่ผู้ใช้รถบนท้องถนน
โดย chawalwit_m
24 มิ.ย. 2567
518 views
หลังจากที่ก่อนหน้านี้พบเห็นคนขับรถตุ๊กตุ๊กก่อเหตุโชว์กร่าง ควงปืน และมีการขู่คนใช้รถบนท้องถนน เรื่องนี้ถึงหู พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แม่ทัพเมืองหลวง ทราบเรื่องไม่ปล่อยให้พฤติกรรมในลักษณะแบบนี้ลอยนวลในสังคมเมืองกรุง กระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
และยังกระทบต่อภาพลักษณ์สำคัญของเมืองไทยและนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่ปรากฎภาพคนขับรถตุ๊กๆ ซึ่งเป็น soft power และหน้าตาของเมืองไทย จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ “ผู้การจ๋อ” ส่งทีม “สารวัตรแจ๊ะ พร้อมทีมงานสืบสวนนครบาล” ลงพื้นที่สืบสวน และติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน ก่อนที่สร้างความเดือดร้อนและความหวาดกลัวเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก .สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว. กก.4 บก .สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.สส.2 ฯปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ บก.สส.บช.น. ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รอง สว.ฯปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อ้นชูฤทธิ์ รอง สว.สอบสวน สน.ดินแดง ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2ฯปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. (สืบนครบาล) และ พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธ์ ผกก.สน.มักกะสัน
ร่วมกันจับกุมตัว นายประพร หรือตั้ม อายุ 31 ปี ภูมิลำเนา อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญฯ” พร้อมทั้งได้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ซึ่งจับได้ที่บริเวณริมถนนใต้ทางด่วน ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ขับขี่รถยนต์ขณะมึนเมาสุรา” ในพื้นที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด จว.ร้อยเอ็ด เมื่อประมาณปี พ.ศ.2561
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ช่วงสาย ได้มีผู้เสียหาย อยู่ในอาการหวาดผวา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ด้วยอาการตื่นตระหนก ตกใจ ด้วยเหตุขณะที่ผู้เสียหายกำลังขับรถไปทำงานเป็นปกติใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร โดยมีรถตุ๊กๆ คู่กรณีขับอยู่ข้างหน้า จู่ๆ เคราะห์ร้ายเจอรถตุ๊กๆ มหาภัย ชูปืนขึ้นมาขู่ให้ผู้เสียหาย และมีการขับรถปาดหน้ารถผู้เสียหาย ยกกระบอกปืนชี้มายังรถของหญิงสาว ผู้เสียหายกับเพื่อนสาวที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน เมื่อตั้งสติได้ จึงได้รีบขับรถออกจากจุดเกิดเหตุดังกล่าว และรวบรวมความกล้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อติดตามและดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถตุ๊กๆภัยสังคมรายนี้
ทีมสืบนครบาลได้ข้อมูลสำคัญว่า คนร้ายเป็นมักจะขับรถตุ๊กๆ ย่านสุขุมวิท ทองหล่อ สาธร ชิดลม เพลินจิต ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญใจกลางเมือง ในช่วงเย็น อีกทั้งยังพบว่า คนร้ายรายนี้ มักจะออกตระเวนขับรถรับ-ส่ง ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในยามราตรี ตลอดเส้นถนนสุขุมวิท อาทิ ซอยนานา สุขุมวิท ทองหล่อ ที่เป็น landmark สถานที่สำคัญที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงได้รายงานให้ ผู้การจ๋อ รับทราบและได้รีบสั่งการให้ทีมงานสืบสวนจัดชุดล่าตัว คนร้ายรายนี้มาให้ได้ เพราะถ้าหากปล่อยไว้ ยิ่งนานวันอาจจะสร้างความเดือดร้อนและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวทีมงานสืบสวน
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายประพร หรือ ตั้ม อายุ 31 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ขับตุ๊กตุ๊กรับนักท่องเที่ยว ย่านสุขุมวิท ทองหล่อ สาธร ชิดลม เพลินจิต ทาง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หรือ "ผู้การจ๋อ" จึงสั่งการให้ทีมสืบสวนออกไล่ล่า
จึงได้จัดชุดไล่ล่า ทั้งกลางวันและกลางคืนและสะกดรอยตามอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 7 วัน และจับกุมได้ริมถนนใต้ทางด่วน ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
นายประพร อยู่ในลักษณะบุคคลคล้ายมึนเมา จากการสอบถามนายประพรฯ ให้การรับว่า ตนคือบุคคลในภาพที่ได้ก่อเหตุดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 ที่ผ่านมาจริง แต่อาวุธปืนที่ใช้นั้นมิใช่อาวุธปืนจริงแต่เป็นอาวุธปืนปลอมที่ตนเองประดิษฐ์และทำจากไม้และพลาสติก ซึ่งทำให้บุคคลทั่วไปเห็นและเข้าใจว่าเป็นอาวุธปืนจริง
โดยได้ทำและมีไว้เพื่อข่มขู่และป้องกันตัวจากวัยรุ่นในช่วงเวลาที่ตนขับขี่รถในช่วงเวลากลางคืน โดยสาเหตุที่ทำไปนั้นเนื่องจาก ขณะเกิดเหตุตนอยู่ในสภาวะมึนเมาแอลกอฮอล์ และมีปัญหา ความเครียดส่วนตัว อันเนื่องมากจาก ตนได้เช่ารถตุ๊กๆ มาจากสหกรณ์แห่งหนึ่ง แต่ช่วงหลัง ๆ มารายได้ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าเช่า จนกระทั่งมาช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนได้ขับขี่รถตุ๊กๆ มาเจอรถผู้เสียหาย จึงเกิดความเครียดและไม่พอใจ จึงใช้อาวุธปืน(ปลอม)ก่อเหตุในครั้งนี้ หลังก่อเหตุ ตนได้โยนอาวุธปืนปลอมดังกล่าวทิ้งไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหามายัง สน.มักกะสัน เพื่อมาสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคดี และยังพบว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) มาจำนวน 2 เม็ด จึงได้ทำการตรวจพิสูจน์และยืนยันว่า พบสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ในร่างกาย จริง โดยรับว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาจำนวน 2 เม็ด เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายประพรฯ นำส่ง พงส.สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญฯ” พร้อมทั้งได้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” อีกกระทงหนึ่ง นำส่ง พงส.สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น นายตั้มฯ ได้กล่าวขอโทษไปยังผู้เสียหาย ว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุแบบนั้น แต่ที่ทำลงไปเป็นเพราะว่าตนเครียด หาเงินไม่ค่อยได้ หากมีโอกาสจะขอกลับตัวกลับใจ บำบัดเสร็จแล้วจะออกมาหาอาชีพสุจริตทำ เลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัวต่อไป
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้กล่าวว่า “คดีนี้ถือว่าผู้ก่อเหตุเป็นภัยสังคมอย่างแรง เพราะตัวเอง ขับรถโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยวเป็นประจำ ยิ่งเป็นรถตุ๊ก ๆ ก็จัดว่าเป็น ซอฟต์ พาวเวอร์ ของเมืองไทย การที่ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมขับรถหวาดเสียวแบบนี้ ประกอบกับการใช้อาวุธปืนมาข่มขู่ ผู้สัญจรบนท้องถนน ซ้ำยังเสพยาเสพติดอีก แบบนี้เป็นการทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างมาก จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนทั่วไปที่ขับรถสัญจรบนท้องถนนว่า หากพบพฤติการณ์ของผู้ขับขี่รถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถตุ๊ก ๆ หรือรถประเภทอื่น ก่อเหตุในลักษณะนี้อีก สามารถแจ้งเบาะแสได้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือ สืบนครบาลได้ทันที“