สพม. 'ตรัง-กระบี่' สั่งทุกรร. งดใช้ตู้ทำน้ำเย็น หลังไฟช็อตนักเรียน ม.2 ดับ พบเป็นเครื่องเก่า ไม่ได้ใช้นานแล้ว

ผอ.มัธยมศึกษาเขต 13 ตั้ง กก.สอบสวน กรณีตู้ทำน้ำเย็นในโรงเรียนเกิดไฟช็อตนักเรียนชายชั้น ม.2 เสียชีวิต พร้อมสั่งทุกโรงเรียนให้งดใช้ตู้ทำน้ำเย็นอย่างเด็ดขาด จนกว่าจะมีการตรวจสอบใหม่ทั้งหมดแล้ว



จากกรณีที่ได้เกิดเหตุนักเรียนชายถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตคาตู้ทำน้ำเย็นภายในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ขณะที่โรงเรียนกำลังจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีภายในโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น



นายชัยณรงค์ ช่างเรือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ตรัง กระบี่ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ตู้ทำน้ำเย็นเครื่องดังกล่าว เป็นเครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว และมีเบรกเกอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าอยู่ด้านหลัง ส่วนเด็กที่เสียชีวิต เป็นนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ได้เดินผ่านไปใกล้ ๆ ซึ่งขณะนั้นฝนกำลังตกหนัก และตัวน้องก็เปียก ส่วนพื้นคอนกรีตแถวนั้นก็เจิ่งนองไปด้วยน้ำ คาดว่าไฟฟ้าที่ตู้ทำน้ำเย็นคงช็อต และมีกระแสไฟไหลลงไปยังพื้นคอนกรีต เมื่อน้องเดินมาเหยียบเข้าพอดี จึงทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นดังกล่าว



ทั้งนี้ ปกติสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ตรัง กระบี่ จะกำชับให้มีการตรวจสอบตู้ทำน้ำเย็นอยู่อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดคือช่วงก่อนเปิดเทอมที่ผ่านมานี่เอง เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้แก่เด็ก ๆ โดยเครื่องไหนที่มีอายุนาน ๆ ก็จะสั่งยกเลิกการใช้งานไปเลย แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นมาได้อีก ล่าสุดตนจึงได้สั่งการไปยังทุกโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในสังกัด ให้งดการใช้ตู้ทำน้ำเย็นอย่างเด็ดขาด จนกว่าจะมีการลงไปตรวจสอบใหม่ทั้งหมด และมีมาตรการดูแลความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพอย่างดีที่สุดแล้ว



ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของน้องผู้เคราะห์ร้ายนั้น เบื้องต้นทางโรงเรียนได้มอบเงินไปให้ผู้ปกครองแล้ว 2 หมื่นบาท พร้อมลงไปดูแลการจัดงานศพอย่างเต็มที่ นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง และตนเองในนาม สมพ.ตรัง กระบี่ ก็ได้ลงไปงานศพด้วย เพื่อร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทางครอบครัวผู้สูญเสีย สำหรับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปแล้ว ซึ่งหากพบว่าเกิดจากความบกพร่องของใคร อย่างไร ก็จะดำเนินการต่อไป โดยให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย