สังคม

'ยักษ์โบกปูน' วัดดังเชียงใหม่ ที่แท้ผู้ว่าฯ หวังดีให้ 'กรมศิลป์ฯ' บูรณะ อาจารย์มช. ฉะ ไม่ใช่วิธีถูกต้อง

โดย nut_p

9 มิ.ย. 2567

253 views

ยักษ์โบราณ ถูกพอกปูน ทำใหม่วัดดังเชียงใหม่ ที่แท้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่หวังดี ประสาน 'กรมศิลป์' ห้มาบูรณะใหม่ ได้ผลกลายเป็นยักษ์โบกปูน ด้านอาจารย์ มช. ฉะ การบูรณะวัตถุโบราณ ให้คงสภาพเดิมนั้นมีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องมาทำแบบนี้



จากกรณี อาจารย์มหาวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่ คณะวิจิตรสิน ภาพถ่ายยักษ์โบราณเก่าแก่อายุ 500 ปี ถูก โบกปูนทำของโบราณเก่าแก่กลายเป็นของใหม่อย่างน่าเสียดาย นำภาพในอดีต กับภาพปัจจุบัน มาเปรียบเทียบให้ดู และเรียกร้องให้ผู้ที่ตัดสินใจทำการบูรณะยักษ์ดังกล่าวให้เป็นของใหม่ให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุรชัย จงจิตงาม คณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โวยที่วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม จ.เชียงใหม่ที่ปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมประติมากรรมปูนปั้นภาพยักษ์ขนาดใหญ่ในศิลปะล้านนาของด้วยการปั้นพอกจนกลายเป็นของใหม่ประติมากรรมปูนปั้นยักษ์ขนาดใหญ่สูงราว 2 เมตร เป็นรูปยักษ์ในศิลปะล้านนาที่พบอยู่ภายในวัดอุโมงค์มาแต่โบราณ ครั้งวัดอุโมงค์ยังเป็นวัดร้างอยู่กลางป่า หลายร้อยปีต่อมา ได้มีการฟื้นฟูวัดอุโมงค์ขึ้นมาอีกครั้ง ตั้งแต่ พ.ศ.2490 และประติมากรรมยักษ์ก็ถูกรักษาไว้ตามเดิมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ประติมากรรมยักษ์ที่วัดอุโมงค์จีมีอายุไม่น้อยกว่า 400 ปี ซึ่งประติมากรรมยักษ์ดังกล่าว สภาพยังสมบูรณ์อยู่มาก มีศรีษะ และลำตัวครบ แม้แขนจะชำรุดบ้าง แต่ก็เป็นศิลปะที่มีค่า โดยในศิลปะล้านนาภาพยักษ์ในสภาพที่สมบูรณ์อายุหลายร้อยปีที่มีอายุหลายร้อยปีเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก



ประติมากรรมยักษ์ที่วัดอุโมงค์จึงมีความสำคัญในฐานะเป็นต้นแบบในการศึกษาภาพยักษ์ในศิลปะล้านนา ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างเฉพาะตัวไปจากภาพยักษ์ในศิลปะอยุธยา และรัตนโกสินทร์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งพบเห็นได้ง่ายในจำนวนมากกว่า ฉะนั้น ยักษ์ที่วัดอุโมงค์จึงมีความสำคัญ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันหาได้ยากที่ควรรักษาไว้อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีบุคคลจากภายนอกที่ไม่รู้คุณค่าของศิลปะโบราณ ได้นำช่างฝีมือรุ่นใหม่มาทำการปั้นพอกปูนทับยักษ์โบราณในรูปแบบที่ปั้นใหม่ขึ้นทั้งหมด ทำให้ยักษ์วัดอุโมงค์จึงกลายเป็นของใหม่อย่างสิ้นเชิง ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น



ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 มิ.ย.67 ณ วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พระครูสมุห์บุญเลิศ ชยวโส เจ้าอาวาส และพระพีระ พระลูกวัดที่รับหน้าที่เฝ้าดูการบูรณะยักษ์ทั้งสองตน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราว ๆ ต้นปี 67 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มาเที่ยวชมวัดแห่งนี้ และเกิดศรัทธาและเห็นยักษ์ทั้งสององค์ ชำรุด จึงประสานให้กรมศิลปกร เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมบูรณะ แล้วเสร็จได้หลายเดือนแล้ว



พระพีระ กล่าวเสริมว่าการดำเนินการเท่าที่ทราบและเห็นก็มีการนำปูนพอกเข้าไปกับของเดิม ซึ่งทางวัดไม่รู้เรื่องการบูรณะใด ๆ เพราะเชื่อมือกรมศิลปกร ที่เป็นแม่งาน เป็นหน้างานของเขา ทางวัดได้แค่ดู เพราะวัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ทุกอย่างเป็นสมบัติของชาติ หน้าที่ซ่อมบำรุ่ง ก็ต้องเป็นกรมศิลป์ ยักษ์ทั้งสองตนมีตำนานมาหลายร้อยปีแล้ว ทั้งเรื่องลึกลับและเรื่องอื่นๆ ในอดีตยักษ์ทั้งสองตนที่ถือเป็นยักษ์  “ทวารบาล” เฝ้าประตูทางเข้าวัด เคยมีคนมาบน แล้วไม่แก้บน ก็เกิดเรื่องราวจนต้องมาแก้บน ต่อมายักษ์ทั้งสองเคยถูกต้นมะกอก และต้นตะเคียนยักษ์ ล้มใส่ แต่เมื่อเอาต้นไม้ออกยักษ์ทั้งสองก็ไม่สึกหรอใด ๆ เลย



วัตถุโบราณ สถานโบราณ ในวัดแห่งนี้นั้นถูกกรมศิลป์ขึ้นบัญชีไว้ทั้งหมดแล้ว ทางวัดนั้นไม่มีสิทธิไปทำการซ้อมบูรณะ มีหน้าที่ดูและคอยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาบูรณะเท่านั้น "ทางวัดเป็นเพียงผู้เฝ้ามอง"



ทางด้านดร. สุรชัย จงจิตงาม คณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ร้องเรียน หลังทราบว่า การบูรณะยักษ์ทั้งสองเป็นสีขาวโดยการโบกปูนทับ เป็นฝีมือข้าราชการระดับของเชียงใหม่ประสานไปยังกรมศิลป์ เพื่อขอให้มาบูรณ ยักษ์ทั้งสององค์ ได้เปิดเผยว่า ตนได้ทราบเรื่องนี้มาก่อนหน้านั้นเหมือนกันว่า เป็นข้าราชการระดับสูงของเชียงใหม่ ท่านได้ประสานไปยังกรมศิลป์ เพื่อร้องขอให้ทางกรมศิลป์มาบูรณะ ยักษ์ทั้งสอง ท่านอาจจะมีความประสงค์ดี แต่การบูรณะแบบนี้นั้นถือว่าไม่ถูกต้องนัก การบูรณะมีหลายวิธี ที่ทำให้วัตถุโบราณ สถานโบราณต่าง ๆ ยังคงความเป็นโบราณ นั้นมีหลายวิธี ไม่ถึงกลับต้องมาบูรณะแบบทำให้ใหม่เลย ทำให้ยังคงเป็นเนื้อปูนโบราณ และกลับสภาพสมบูรณ์ กรมศิลป์ นั้นย่อมรู้ดี ตนสามารถแนะนำวิธีการบูรณะ แบบให้มีความสมบูรณ์ยังคงความเป็นเนื้อโบราณ พร้อมและยินดีให้คำแนะนำ



ตอนนี้ตนทราบมาว่า มีสถานโบราณ อีกหลายแห่งในเชียงใหม่ ที่มีข้าราชการระดับสูงท่านไปเห็นแล้วเกิดความไม่สบายใจ และประสานกรมศิลปฺ์ ทำการบูรณะใหม่ ที่ไหนบ้าง ตอนนี้รอแหล่งข่าวส่งภาพและสถานที่มา จะได้นำเสนออีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News