สังคม

โค้ชรับใช้ท่อพีวีซี เคาะหัวทำโทษเด็ก เพื่อนแฉสุดทน ขาดวินัย สูบบุหรี่ หนีเที่ยว ไม่เคารพโค้ช

โดย thichaphat_d

24 พ.ค. 2567

418 views

โค้ชฟุตบอล อะคาเดมี โต้เด็กและผู้ปกครองที่ร้องสื่อพูดเกินจริง รับวันเกิดเหตุใช้ท่อพีวีซีเคาะหัวไป 1 ครั้ง หลังเรียกมาอบรมนิสัยแล้วไม่สนใจฟัง แต่ไม่เคยให้ใครไปกระทืบ ย้ำเด็กมีพฤติกรรมแย่ ขาดวินัย แอบสูบบุหรี่ หนีเที่ยว พูดจาหาเรื่องเพื่อนทีม

วันที่ 23 พ.ค.67 เวลาประมาณ 17.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง เอ็มเจ อะคาเดมี่ ของนายสมพร แดงเจริญ ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังมีประเด็นในเพจฟุตบอลเด็กไทย ได้ลงเรื่องราวของนักเตะอะคาเดมี่ (น้องโม นามสมมุติ) ถูกโค้ชใช้ท่อพีวีซีเคาะหัว พร้อมบอกจะหาคนมากระทืบ และในคืนนั้นได้ถูกเพื่อนร่วมห้อง รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค.67 หลังเกิดเหตุพ่อของเด็กที่ถูกทำร้าย ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โคกขาม


ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายสมพร แดงเจริญ เจ้าของโครงการฟุตบอลเพื่อความเป็นเลิศ ซึ่งเป็นเจ้าของเอ็มเจ อะคาเดมี่ พร้อมด้วยนายจารุทรรศน์ จันทร์เด่นดวง โค้ชที่ใช้ท่อพีวีซีเคาะหัวเด็ก และยังได้พบกับเด็กนักเรียน 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่เกิดเรื่อง ซึ่ง 2 ใน 3 คนนั้น ยังเป็นเด็กนักเรียนที่ลงมือก่อเหตุรุมทำร้ายน้องโม อีกด้วย


นายจารุทรรศน์ ที่เป็นโค้ช เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเรื่องกำลังประชุมเด็กนักเรียนที่ห้องนอน และน้องโมซึ่งแอบหนีออกไปนอกอะคาเดมี่ ได้กลับเข้ามาในห้องนอนพอดี จึงได้สอบถามว่าทำไมไม่ซ้อมบอลและออกไปไหนมา พร้อมกับพูดอบรมเพื่อเตือนสติ แต่น้องโมไม่ใส่ใจหันไปทางอื่น และยังหัวเราะพร้อมกับหยอกเพื่อนข้างๆ ตนจึงหยิบท่อพีวีซีที่อยู่แถวนั้น เคาะหัวไปหนึ่งครั้ง พร้อมกับพูดว่าทำนิสัยแบบนี้ ถ้าไปอยู่ที่อื่นโดนกระทืบแน่ และยังบอกว่าถ้าทำพฤติกรรรมแบบนี้ จะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้เพราะวงการนี้มันแคบ เพราะทุกคนคุยกันหมด หลังจากอบรมเสร็จก็ออกจากห้องนอน โดยที่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

กระทั่งตอนเช้า น้องโมมาขออนุญาตกลับบ้าน ตนเห็นรอยช้ำที่ใบหน้า จมูก จึงถามว่าไปโดนอะไรมา พร้อมถามว่าจะเอายาทาหรือไม่ น้องโมตอบว่าลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางดึก และเดินชนกับขอบเตียงเพราะความมืด รวมทั้งไม่ยอมเอายารักษาแผล บอกแต่ว่าไม่เป็นไร กำลังกลับบ้านแล้ว

หลังจากนั้นพ่อน้องโมได้โทรมาหา นายสมพร เจ้าของทีมว่า ลูกชายถูกรุมกระทืบ จึงได้เรียกเด็กที่อยู่ในห้องนอนมาสอบถาม ซึ่งทุกคนพยายามปิดบัง แต่สุดท้ายก็ได้ตัวคนที่ก่อเรื่อง และเรียกมาตักเตือนพร้อมกับทำทัณฑ์บน หลังจากนั้นวันที่ 23 ม.ค.67 มีตำรวจเข้ามาที่อคาเดมี่ เพื่อมาดูที่เกิดเหตุและถ่ายรูป

นายจารุทรรศน์ เล่าอีกว่า จากการสอบถามเด็กๆ ที่ก่อเหตุทราบว่า เหตุผลที่เด็กลงมือทำร้ายกันนั้น เป็นเรื่องที่สะสมมาสักระยะหนึ่ง เนื่องจากไม่ชอบนิสัยของน้องโม ที่มักพูดจากวนๆ และชอบหาเรื่อง รวมทั้งข่มขู่ว่ามีเพื่อนเป็นเด็กช่าง จะพามาทำร้ายเพื่อนๆ ในทีม รวมทั้งยังแอบดูดบุหรี่ไฟฟ้าในห้องนอน ชอบแหกกฎอยู่ตลอด ทำให้เพื่อนในห้องไม่ชอบพฤติกรรมที่น้องโมทำกับโค้ช


หลังพ่อเด็กเข้าแจ้งความจนถึงวันนี้ ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากยังไม่ได้ยื่นใบรับรองแพทย์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่บาดเจ็บต้องรักษาตัวถึง 90 วัน แต่ยังเห็นรูปจากสื่อโซเชียล ที่น้องโมอัพรูปของตัวเองหลังเกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งใบหน้าไม่มีร่องรอยของการบาดเจ็บแต่อย่างใด

ด้านเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์และเด็กคู่กรณีที่เป็นฝ่ายรุมทำร้าย ยอมรับว่าได้ทำจริง แต่ไม่ใช่เพราะโค้ชสั่ง เป็นเพราะไม่ชอบนิสัยของน้องโม ที่ชอบพูดจาไม่ดี และข่มขู่ว่าจะเอาเด็กช่างมาทำร้าย รวมทั้งชอบโดดซ้อม หนีเที่ยว แอบสูบบุหรี่ ยืมเงินแล้วไม่คืน แต่ที่สำคัญคือรู้สึกโกรธที่แสดงพฤติกรรมไม่ดีกับโค้ช ซึ่งเป็นคนที่เด็กนักเรียนรักและให้ความเคารพ


ส่วนนายสมพร เจ้าของทีม เปิดเผยว่า น้องโมย้ายมาอยู่ในทีมได้ไม่กี่เดือน ส่วนที่ย้ายมาเพราะผู้ปกครองมาขอให้รับลูกอยู่ด้วย แต่เท่าที่ทราบประวัตินั้นส่วนใหญ่จะมีปัญหากับที่เก่าๆ มาตลอด ทำให้อยู่ที่ไหนไม่ได้นาน โดยมาอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็ทำพฤติกรรมแย่ๆ

สำหรับ เอ็มเจ อะคาเดมี มีนักเรียนอยู่ในโครงการจำนวน 170 คน เปิดดำเนินการมาแล้ว 11 ปี ที่ผ่านมาได้ส่งแข่งขันฟุตบอลในรายการต่างๆ ในนามโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยาเอฟซี โดยเด็กทั้งหมดจะกินนอนในอะคาเดมี และเรียนที่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ซึ่งโครงการฟุตบอลเพื่อความเป็นเลิศ ของเอ็มเจ อะคาเดมี่ ได้

คุณอาจสนใจ

Related News