ตร.บุกจับหนุ่มคลั่งยา เดินแก้ผ้า-ทำลายข้าวของ ซ้ำพยายามขืนใจยายวัย 75

หนุ่มคลั่งยาบ้า เดินแก้ผ้าอาระวาดทำลายข้าวของ ซ้ำพยายามข่มขืนหญิงชรา วัย 75 ปี โชคดีที่มีคนมาเห็นก่อน


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านใน อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยนายด้า อายุ 60 ปี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า เนื่องจากทนกับพฤติกรรมของนายมานัส อายุ 35 ปี ลูกชายแท้ๆไม่ไหว มีพฤติกรรมก้าวร้าวเสพยาบ้า คลุ้มคลั่งเดินแก้ผ้าอาละวาดทุบทำลายข้าวของ

ล่าสุดจากที่ทำลายทรัพย์สินข้าวของภายในบ้านแล้ว นายมานัส ได้ใช้กำปั้นทุบทำลายรถกระบะซึ่งจอดอยู่ข้างบ้านจนเป็นรอยยุบ และมีพฤติกรรมช่วยตนเอง ตะโกนด่าทอพ่อแม่ สลับกับโวยวายร้องเพลงเสียงดังไปรอบหมู่บ้าน จนชาวบ้านเอือมระอาและหวาดกลัวต้องคอยปิดบ้านนี้เมื่อผู้ก่อเหตุเดินผ่าน และที่หนักสุดคือ พยายามปลุกปล้ำทำอนาจาร อาแท้ซึ่งมีบ้านอยู่ระแวงเดียวกัน เคราะห์ดีที่ลูกหลานเข้ามาช่วยไว้ทัน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างหมู่บ้าน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาถึง 2 เดือน ที่นายมานัส มีอาการเช่นนี้จนชาวบ้านทุกคนระอากับพฤติกรรมดังกล่าว

ด้านนายด้า พ่อนายมานัส เล่าว่า ลูกชายมีพฤติกรรมเสพยาบ้าก่อนหน้านี้เคยติดคุกในคดีครอบครองเพื่อจำหน่ายมาแล้วหลังออกจากเรือนจำได้ประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมาลูกชายหวนกลับไปเสพยาบ้าดังเดิม ตนพยายามห้ามแล้วแต่ลูกชายไม่ฟัง กลับมีพฤติกรรมด่าทอพ่อแม่และบุคคลรอบข้างจนไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ จนอาการหนักขึ้น เรื่อยๆ ตนพยายามทุกวิธีทางแต่ไม่เป็นผลก็ต้องปล่อยให้อยู่บ้านส่วนตนพร้อมกับลูกๆและภรรยาก็ต่างพากันแยกย้ายออกทำมาหากินในแต่ละวันไม่มีเวลาดูแล ซึ่งนายด้า พ่อของผู้ก่อเหตุยอมรับตามตรงว่าลูกชายมีพฤติกรรมคุ้มคลั่งจริงๆ เพราะตนเองและภรรยาซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนายมนัส รับรู้มาตลอดว่าลูกชายมีพฤติกรรมคุ้มคลั่ง เมื่อต้องการเสพยาบ้าหรือแม้บางทีได้เสพยาบ้าแล้วก็ตาม อาการก็ไม่ได้ลดหย่อนลงเลยมีแต่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ

หลังๆนายมานัส มีพฤติกรรมเดิมแก้ผ้าบางครั้งก็ช่วยตัวเองไปด้วย ปากก็ตะโกนด่าทอพ่อแม่หรือบุคคลอื่นๆสลับกับร้องเพลงตะโกนเอะอะโวยวายจนเป็นที่รำคาญของชาวบ้านและบุคคลที่พบเห็น และเป็นที่หวาดกลัวของหญิงสาวในหมู่บ้านจนล่าสุด ชาวบ้านหวาดกลัวถึงขั้นที่ลูกชายเดินผ่านต้องปิดบ้านหนีกันเลยทีเดียว

จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบแล้วพยายามหาวิธีป้องกันแต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีการคุ้มคลั่งอย่างหนักผู้ใหญ่บ้านก็ทำได้แค่ขับไล่ในช่วงที่ลูกชายของตนมีอาการคุ้มคลั่งอย่างหนักเท่านั้น ไม่สามารถเข้าใกล้ตัวได้ ผู้ใหญ่บ้านจึงแนะนำให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า

ส่วนเรื่องที่ลูกชายของตนทำร้ายข้าวของทรัพย์สินภายในบ้านพร้อมกับทำลายรถยนต์นั้นตนเองยืนยันขอแจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายของตนเองให้ถึงที่สุด

ฝ่ายผู้เสียหาย ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เสียหาย เล่าว่าวันเกิดเหตุนางเปีย อายุ 50 ปี แม่ของตนมีศักดิ์เป็นอาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งวันนั้นแม่กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนายมานัส ผู้ก่อเหตุซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ และอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง ได้เดินแก้ผ้ามุ่งตรงมาที่บ้าน

ขณะเดียวกันลูกหลานไม่มีใครอยู่ที่บ้านมีเพียงนางเปีย (นามสมมุติ) อายุ 75 ปี แม่ของตน อยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งเมื่อนายมานัสผู้ก่อเหตุเดินมาถึงบริเวณหน้าบ้าน ก็ได้ยินร้องตะโกนด่าทองสลับกับร้องเพลงหยุดสักครู่ ซึ่งนางเปีย ผู้เสียหายที่เห็นหลานชายของตนมีพฤติกรรมเช่นนั้นก็มองเป็นเรื่องปกติไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตน หลังจากพี่นายมานัสร้องตะโกนอยู่สักครู่ ก็ได้เดินตรงดิ่งมาบริเวณที่นางเปียนอนอยู่พร้อมกับพยายามปกป้องถอดเสื้อผ้าของนางเปีย เคราะห์ดีที่ลูกหลานกลับมาบ้านทันเวลา ผมเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้ตะโกนด่าพร้อมกับวิ่งเข้าไปในบ้านทำให้นายมานัสเกิดการตกใจ วิ่งสวนออกไป จากนั้นก็ตามภาพเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านใช้เจาะเสียงวิ่งไล่ตีผู้กองเหตุจนทำให้ผู้ก่อเหตุวิ่งหนีเข้าไปในป่าอีกครั้ง

หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับทันที พร้อมกับติดตามตัวผู้ก่อเหตุซึ่งหลบหนีอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมจับผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันเกลี้ยกล่อมก่อนจับกุมตัวได้ พร้อมกับตรงตัวฟ้องศาลฝากขังแล้ว